นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เรียกร้องให้ กกต. พิจารณาพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (พรป.นักการเมือง) พ.ศ. 2561 และ ระเบียบ กกต.ว่าด้วยจำนวน หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขของการให้ตามประเพณีหรือเมื่อมีเหตุอันสมควร และการยื่นคัดค้านเกี่ยวกับการบันทึกค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป พ.ศ. 2561 อย่างยืดหยุ่น เพราะในขณะนี้สถานการณ์ไม่ปกติมีวิกฤตแพร่ระบาดของโรคโควิด- 19
หากจำกัดการช่วยเหลือแก่พรรคการเมืองในแต่ละโอกาสไม่เกิน 3,000,000 บาท ส่วนส.ส.หรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองช่วยเหลือในแต่ละโอกาสได้ไม่เกิน 300,000 บาท หากเกินกว่านั้นให้นำไปรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งต่อไป เพราะหลักเกณฑ์เช่นนี้ จะทำให้ส.ส.มีข้อจำกัดในการช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส
"สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็น วิกฤตที่ยืดเยื้อและอาจใช้เวลาเป็นปีกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย การจำกัดวงเงินการช่วยเหลือไว้ที่จำนวน 300,000 บาทสำหรับผู้เป็นส.ส.หากเกินกว่านั้น ต้องนำไปรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะทำให้ส.ส. ช่วยเหลือชาวบ้านไม่ได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่สถานการณ์ปกติ คิดว่า หาก ส.ส.จะนำเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชน ออกไปช่วยเหลือชาวบ้านเจ้าของเงิน เป็นเรื่องที่ดีและเหมาะสมที่จะต้องทำ ดังนั้นตนต้องการให้ ประธาน กกต. พิจารณาเรื่องนี้ โดยเอาประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนเป็นที่ตั้ง" สิระ กล่่าว
พร้อมกับระบุว่า ตนเข้าใจในข้อกฎหมาย แต่กฎหมายบางข้อในสถานการณ์ฉุกเฉินก็ย่อมที่จะยกเว้นได้ การจำกัดงบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เพียง 300,000 บาท ตนอยากจะย้อนถามว่า เงินจำนวนนี้จะเพียงพอต่อประชาชนในพื้นที่หรือไม่ กกต.ต้องตรวจสอบให้รอบคอบแต่ละเขตมีประชาชนกี่ครัวเรือน
เพราะหากเป็นสถานการณ์ปกติตนไม่มีปัญหาในข้อกำหนดนี้เลย แต่ขณะนี้ชาวบ้านรอความช่วยเหลือ พวกเขาทำมาหากินไม่ได้ และจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของภาครัฐอย่างเดียวใช่หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นตนคิดว่าเราก็ไม่ควรมี ส.ส.ให้สินเปลืองงบประมาณภาษีของประชาชน
ทั้งนี้ ในวันพุธที่ 15 เม.ย.ตนและกลุ่มเพื่อน เตรียมแจกข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม จำนวน 10,000 ถุง ในเขตหลักสี่และจตุจักร เพื่อช่วยเหลือ เยียวยาประชาชนที่กำลังเดือดร้อนอย่างมาก
อ่านเพิ่มเติม