ไม่พบผลการค้นหา
"สนธิรัตน์" ระบุความเห็นต่างไม่พอใจ เป็นเรื่องปกติของพรรคการเมือง เผยรายชื่อ รมต.ของ พปชร.ถึงมือนายกฯ แล้ว คาด ก.ค.ได้ ครม.ชุดใหม่ ชี้เป็นไปได้ พล.อ.ประยุทธ์ นั่งหัวหน้าพรรค แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ

สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า เป็นเรื่องที่ดีหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะจะทำให้การบริหารจัดการพรรค เป็นไปด้วยความเข้มแข็งมากขึ้น ที่ผ่านมาทางพรรคยอมรับว่า ไม่เคยมีการพูดคุยแนวทางนี้มาก่อน เพิ่งเห็นกระแสข่าวเมื่อวานนี้ หากเป็นจริงก็ยินดี แต่ขณะนี้ยังเร็วเกินไป เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีความเป็นไปได้ในทุกตำแหน่ง อาทิ หัวหน้าพรรค ที่ปรึกษาพรรค ประธานยุทธศาสตร์ รวมถึงสมัครเป็นสมาชิกพรรค 

คาด ก.ค. ทุกอย่างลงตัว

สำหรับการจัดสรรตำแหน่งคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล ขณะนี้อยู่ระหว่างที่พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ดุลยพินิจตัดสินใจ และพิจารณาความเหมาะสม รวมถึงการตรวจสอบคุณสมบัติ ของผู้ที่ถูกเสนอชื่อ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของทั้งพรรคพลังประชารัฐ และพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมย้ำว่า การจัดสรรขณะนี้มีความเรียบร้อย และคืบหน้าไปมากแล้ว โดยเฉพาะในกระทรวงหลักๆ สำคัญ อย่างไรก็ตาม คาดว่าเดือนกรกฎาคม จะได้เห็นโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีอย่างแน่นอน 

นายสนธิรัตน์ ยังมองว่า การจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีในแต่ละพรรค ก็มีความขัดแย้งและเห็นต่างบ้าง ไม่เฉพาะพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้เกียรติพรรค เพราะเป็นพรรคขนาดใหญ่ มี 100 กว่าเสียง ก็ย่อมจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างไปบ้าง ก็เป็นเรื่องปกติ ที่การจัดสรรตำแหน่ง จะเป็นทั้งที่พอใจและไม่พอใจ ซึ่งคงจะให้พอใจทั้งหมดคงเป็นไม่ได้ เนื่องจากพรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคที่เปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงความคิดเห็น ในที่สุดแล้วก็จะสามารถตกลงกันได้ 

เมื่อถามว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในพรรคและพรรคร่วมรัฐบาล จะมีผลให้รัฐบาลอายุสั้นหรือไม่ ?

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ยิ่งมีความขัดแย้งเท่าไหร่ ก็อาจจะทำให้รัฐบาลอายุยาวขึ้นก็ได้ ส่วนที่มีกระแสข่าว โดยการหยิบยกเอาประเด็นที่สร้างความเสียหาย อย่างคดีความเก่าๆ ในอดีตมาโจมตีกัน มองว่า ไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะเรากำลังจะเดินไปข้างหน้า เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกไม่ดี ที่เรามีการแย่งชิงตำแหน่งทางการเมืองกัน 

นายสนธิรัตน์ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานร่างนโยบายของพรรค กล่าวว่า ความคืบหน้าการร่างนโยบาย ขณะนี้ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐมีความสมบูรณ์แล้ว จากนี้ก็จะนำไปร่วมกับนโยบายกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นในสัปดาห์หน้า เพื่อจัดทำเป็นนโยบายรัฐบาลต่อไป  

เมื่อถามว่า การยืนเรื่องต่อศาลให้มีการตรวจสอบการถือครองหุ้นสื่อมวลชน ของ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ และพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีมากถึง 41 คน อาจจะกระทบต่อการทำงานของสภาผู้แทนราษฎร์ของรัฐบาลหรือไม่ ?

อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยอมรับว่าเป็นเรื่องใหญ่ และได้มีการจัดคณะทำงานขึ้นมารับผิดชอบในการต่อสู้กับข้อร้องเรียนดังกล่าว โดยแต่ละบุคคลจะชี้แแจงข้อเท็จจริงกันต่อไป และทั้งหมดขึ้นอยู่ดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ