ตัวแทนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หรือ สภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย เดินทางเข้าพบผู้บริหารและ ส.ส. พรรคเพื่อไทย เพื่อฝากทวงถามถึงมาตรการเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 เพราะที่ผ่านมากลุ่มผู้ประกอบการ SMEs เป็นกลุ่มที่ตกหล่นและยังไม่ได้รับการเยียวยาจากรัฐบาล ทั้งที่เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานรากและเป็นแหล่งจ้างงานหลักของประเทศ แต่กลับไม่ได้รับการเยียวยาทั้ง ๆ ที่ เป็นผู้ประกอบการกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากกำลังซื้อที่หดหาย
ถึงแม้รัฐบาลจะออก พ.ร.ก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท แต่ก็ไม่ได้บอกชัดเจนว่าจะมีมาตรการที่เป็นรูปธรรม อย่างไร ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างกำลังซื้อ และเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้อย่างยั่งยืน ในส่วนของวงเงินกู้ที่รัฐบาลบอกว่าจะปล่อยให้ผู้ประกอบการเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่อง ก็เน้นปล่อยให้แก่ลูกค้ารายเดิม ๆ ที่เป็นลูกหนี้ชั้นดี ซึ่งมีไม่ถึง 100,000 ราย เท่านั้น ในขณะที่ ผู้ประกอบการ SMEs ทั้งประเทศ มีจำนวนถึง 3-4 ล้านราย ทำให้มาตรการสินเชื่อของรัฐบาลไม่สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ได้อย่างทั่วถึง
นอกจากนี้ ในส่วนของ soft loan ของธนาคารแห่งประเทศไทย อนุญาตให้ผู้ประกอบการที่มีวงเงินสินเชื่อเดิมกับสถาบันการเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทสามารถกู้ได้ ซึ่งผู้ประกอบการที่มีวงเงินสินเชื่อถึง 500 ล้านบาท ย่อมไม่ใช่ผู้ประกอบการรายย่อย จึงน่าสงสัยว่าผู้ประกอบการรายย่อยจะเข้าไม่ถึงเงินเชื่อดังกล่าว ดังนั้น กลุ่มผู้ประกอบการ จึงขอฝากคำถามเหล่านี้ไปยังรัฐบาล ผ่านทาง ส.ส พรรคเพื่อไทย เพื่อให้นำข้อมูลไปใช้ในการอภิปราย พ.ร.ก. วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ที่สภาผู้แทนราษฎรเพื่อทวงความเป็นธรรมให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่กำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสด้วย