มาดอนนา ลูอิส ชีโคเน หรือที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ มาดอนนา นักร้องชาวอเมริกัน ให้สัมภาษณ์นิตยสารโว้กประเทศอังกฤษ (British Vogue) เกี่ยวกับครอบครัว การถูกนำไปเปรียบเทียบดาราคนอื่นๆ และการที่ยังผลิตงานเพลงอยู่แม้จะย่างเข้าสู่วัย 60 ปี
"ผู้คนมักพยายามปิดปากฉันด้วยเหตุผลข้อไหนสักข้อเสมอ ไม่ว่าจะเป็นสวยไม่พอ ร้องเพลงดีไม่พอ มีพรสวรรค์ไม่พอ ใช้ชีวิตแต่งงานมาไม่มากพอ แล้วทีนี้ฉันก็สาวไม่พออีก" มาดอนน่ากล่าวในบทสัมภาษณ์ และย้ำว่า "ขณะนี้ฉันกำลังต่อสู้กับการเหยียดวัยอยู่ ฉันกำลังถูกลงโทษเพียงเพราะอายุขึ้น 60"
การเหยียดวัย (Ageism) คือการเหมารวมและเลือกปฏิบัติกับผู้ที่มีอายุมากหรือน้อย เช่น มองว่าผู้สูงวัยเรียนรู้ช้า ขี้หงุดหงิด ตามโลกไม่ทัน ควรอยู่บ้านเลี้ยงหลาน ตัดสินว่าไม่เหมาะกับการทำงาน สำหรับตัวมาดอนนาเองในช่วงหลายปีมานี้ เธอประสบกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั้งโดยสื่อและคนทั่วไปถึงพฤติกรรมและการแต่งตัวว่าควร ‘ชราอย่างสง่างาม’ กว่านี้ และมักถูกตีตราว่าเป็นคุณยายที่ทำตัวไม่สมวัย ด้วยการแสดงออกที่ท้าทายความคาดหวังของสังคม เช่น การถกกระโปรงขึ้นเผยก้นซึ่งถูกรัดรึงด้วยตาข่าย ในงานแกรมมี่ อวอร์ด ปี 2015
นอกจากนี้เธอยังเคยชี้ถึงปัญหาของการเหยียดวัยไว้ โดยเฉพาะอคติต่อคนสูงวัยในวงการดนตรี โดยเมื่อปลายปี 2016 ซึ่งเธอรับตำแหน่งสตรีแห่งปี จากงานบิลบอร์ดวูเมนอินมิวสิค 2016 ขณะที่เธออายุได้ 58 ปี เธอกล่าวว่าในวงการดนตรี การแก่ถือเป็นบาป "คุณจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถูกป้ายสี และวิทยุก็จะไม่ยอมเล่นเพลงของคุณ"
อีกด้านหนึ่ง ในทวิตเตอร์เองก็มีผลตอบรับในเชิงตำหนิต่อบทสัมภาษณ์ของเธอในโว้กเช่นกัน ว่าเธอแค่ใช้ความสาวและความยั่วยวนทางเพศเป็นจุดขายเรื่อยมากระทั่งไม่สามารถรักษาความสาวไว้ได้อีกต่อไป รวมถึงมีความเห็นว่าเธอวางตัวเป็นผู้ถูกกระทำมากเกินไปทั้งที่ตัวเองมั่งคั่งและได้รับสิทธิพิเศษมากกว่าคนจำนวนมากในสังคม
อย่างไรก็ตาม สำหรับจุดยืนของมาดอนนาต่อประเด็นเรื่องการเหยียดอายุนั้น เธอได้ให้สัมภาษณ์ในนิตยสารเดอะคัต (The Cut) เมื่อเดือนเมษายนปี 2018 โดยตั้งคำถามว่าทำไมถึงมีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้โลดโผน ยั่วยวนทางเพศ
"สิ่งที่ฉันเผชิญอยู่คือการเหยียดวัย ผู้คนตำหนิฉันหรือทำให้ฉันรู้สึกแย่เพียงเพราะว่าฉันคบกับผู้ชายอายุอ่อนกว่า หรือทำสิ่งที่คนมักมองว่าถูกสงวนไว้ให้ผู้หญิงที่สาวกว่านี้เท่านั้นทำ ใครเป็นคนตั้งกฎพวกนี้ ใครกัน" เธอกล่าวและแสดงความเชื่อว่าการยืนหยัดท้าทายค่านิยมของสังคมที่บอกว่าใครทำอะไรได้ไม่ได้จะทำให้สักวันหนึ่งการกระทำเหล่านั้นจะกลายเป็นเรื่องธรรมดา และไม่ถูกมองว่าไม่เหมาะสมสำหรับคนสูงวัยอีกต่อไป
ที่มา: British Vogue/ Dailly Mail