เศรษฐกิจ
'ณพ ณรงค์เดช' เปิดใจปมคดีความ-มุ่งสานฝันพา บ.เข้าตลาดหุ้น
ณพ ณรงค์เดช รองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH เผยคดีความที่ นพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ยื่นฟ้องร้องกับอนุญาโตตุลาการ ปัจจุบันสิ้นสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคำพิจารณาชี้ขาดว่ายกเลิกการขายหุ้มไม่ได้และฝั่ง ณพ ดำเนินการจ่ายเงินค่าหุ้นเป็นที่สิ้นสุดแล้ว ขณะที่การฟ้องร้องกันที่ฮ่องกงซึ่งมีครอบครัวณรงค์เดชเป็นโจทก์ ศาลฮ่องกงก็ยกคดีทิ้งไปแล้วเช่นเดียวกัน
ปัจจุบัน ณพ ยังมีคดีความที่นพพรไปฟ้องร้องที่ประเทศอังกฤษ รวมถึงคดีความจากฝั่งครอบครัวตนเองที่มีการฟ้องร้องในประเทศไทยอยู่ ซึ่ง ณพ ย้ำว่า ตนเองพร้อมทีมทนายเตรียมข้อมูลหลักฐานทุกอย่างเอาไว้พร้อม และเชื่อว่าจะได้รับความยุติธรรมเมื่อมีการตรวจหาข้อเท็จจริง พร้อมเสริมว่า ความเข้าใจในฝั่งครอบครัวของตนเองที่มองว่า ตนเอาเงินของครอบครัวมาซื้อหุ้นบริษัท WEH นับจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เห็นหลักฐานจากฝั่งครอบครัวแต่อย่างใด
- ณพ ณรงค์เดช รองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด
ทั้งนี้ ณพ ย้ำว่า ที่ตนเองเลือกเงียบมาตลอดช่วงที่ผ่านมา เป็นเพราะส่วนหนึ่งของคดีความเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวและเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างมาก ทว่า ตนจำเป็นต้องออกมาชี้แจงความจริงในฝั่งของตัวเองเช่นเดียวกัน เนื่องจากข่าวที่เกิดขึ้นกำลังสร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์ของบริษัท โดยก่อนหน้านี้ ก็มีผลกระทบกับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศออสเตรเลียไป อีกทั้ง ปัจจุบันตนเองกำลังพยายามพาบริษัทเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จึงไม่อยากให้เกิดภาพลักษณ์ที่เสื่อมเสียจากคดีความต่างๆ ซึ่งแท้จริงแล้วไม่มีผลกับเกณฑ์การยื่นจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด (มหาชน)
ช่วงท้ายที่พูดประเด็นเรื่องครอบครัว ณพ กล่าวว่า ที่ผ่านมากรณีการฟ้องร้องที่ฮ่องกง ศาลก็ตัดสินชี้ว่าคำร้องของโจทก์ไม่มีมูล ทั้งยังสั่งให้ฝั่งโจทก์ หรือ เกษม ณรงค์เดช บิดาของณพ เป็นผู้จ่ายค่าดำเนินการทั้งหมด ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง แต่ที่ผ่านมา ตนและลูกชายก็ยังไม่ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับ เกษม อย่างเป็นส่วนตัวสักครั้งเดียว แต่ย้ำว่า "ยังรักพ่อเหมือนเดิม"
"ไม่ได้อยากพูด ใครสร้างเรื่อง โหดร้ายกับพ่อมาก" ณพ กล่าว
เมื่อกลับมาพูดถึงบริษัทโรงไฟฟ้าพลังงานลมของตนเองที่มีเป้าหมายในการนำเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ณพ ชี้ว่า ปัจจุบัน ณ สิ้นปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายรับรวม 1.2 หมื่นล้านบาท โดยคิดเป็นกำไรสุทธิ 5,888 ล้านบาท ส่งให้มีกำไรสะสมรวม 5,975 ล้านบาท ณพ ยังเสริมว่า ตอนที่ตนเริ่มเข้ามาบริหารบริษัทในปี 2558 บริษัทมีรายรับเพียง 1,600 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 500 ล้านบาท แต่ขาดทุนสะสม 128 ล้านบาท
ประธานฯ ชี้ว่า ด้วยปัจจุบัน WEH บริษัทดำเนินธุรกิจไฟฟ้ารวมั้งสิ้น 8 โครงการ เพื่อขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในจังหวัดนครราชสีมาและชัยภูมิ คิดเป็นกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 717 เมกะวัตต์ ซึ่งทั้งหมดนั้นเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date: COD) แล้วทั้งสิ้น
อีกทั้ง หนี้เดิมของบริษัท WEH จำนวน 8,000 ล้านบาท บริษัทก็ใช้หนี้จนลดลงมาเหลือเพียง 200 ล้านบาทแล้ว ซึ่งก็คาดว่าจะสามารถชำระหนี้ก้อนหนี้ให้กับธนาคารไทยพาณิชย์ได้ภายในสิ้นปีนี้ ส่วนประเด็นเงินปันผล จำเป็นต้องรอให้เคลียร์หนี้สินทั้งหมดก่อน และอยู่ที่ดุลยพินิจของบอร์ดบริหารว่าจะจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นภายในสิ้นปีนี้หรือไม่ หากบริษัทสามารถเคลียร์หนี้ที่เหลือได้
ปัจจุบันบริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด ซึ่งจดทะเบียนในฮ่องกง ถือหุ้นใหญ่ใน WEH ประมาณ 40% โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อยอีกประมาณ 200 ราย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
