'อินเทล' บริษัทผลิตชิปสารกึ่งตัวนำใหญ่ที่สุดในโลก เริ่มสังเกตถึงปัญหาการลาออกของพนักงานโดยเฉพาะในกลุ่มเพศหญิงและชนกลุ่มน้อยในปี 2559 บริษัทจึงตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยการเปิดบริการสายด่วนเพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานได้พูดคุยเปิดใจเกี่ยวกับปัญหาในที่ทำงานก่อนตัดสินใจยื่นใบลาออก
บาร์บาลา วาย หัวหน้าฝ่ายความหลากหลายและการควบรวมของอินเทล กล่าวว่า เราต้องการเข้าถึงปัญหาที่แท้จริงที่พนักงานเผชิญและหาวิธีแก้ที่มีประโยชน์ก่อนพวกเขาจะเดินออกไป โดยบาร์บาลา ชี้ว่า สายด่วนที่มีชื่อว่า 'สายอบอุ่น' (WarmLine) มีประสิทธิภาพในการช่วยรักษาพนักงานที่มีแนวโน้มลาออกได้ถึงร้อยละ 82 ซึ่งหมายความว่า พนักงาน 8 ใน 10 คน ที่มีปัญหาตัดสินใจอยู่ทำงานต่อ
สายด่วนรับปรึกษาและผู้จัดการที่มีความรู้
ผู้ที่มารับตำแหน่งสำคัญสำหรับโครงการสายด่วนนี้คือทีมผู้จัดการจากแผนกความหลากหลายและการควบรวมของอินเทล ซึ่งบทบาทหน้าที่ที่ผู้จัดการเหล่านี้ต้องแบกรับเป็นมากกว่าการพูดคุยกับพนักงานที่มีปัญหา แต่ยังต้องเข้าไปพูดคุยกับผู้จัดการในแต่ละฝ่ายเพื่อพัฒนาและปรับปรุงองค์กร
โดยสิ่งสำคัญที่สุด คือการขออนุญาตจากพนักงานทุกครั้งที่จะมีการตัดสินใจนำบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมแก้ปัญหา
บาร์บาลา เสริมว่า ทีมผู้จัดการเหล่านี้ยังเคยผ่านการฝึกอบรมการเป็นไลฟ์โค้ชจากบริษัทภายนอกและมีการแชร์ประสบการส่วนตัวของผู้จัดการแต่ละคนเพื่อช่วยพนักงานที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาเช่นเดียวกัน
"การที่พนักงานพูดคุยแบบไม่เป็นทางการกันเอง มีประสิทธิภาพกว่าการเดินเข้าไปบ่นกับเอชอาร์" บาร์บาลา กล่าว
ตั้งแต่มีการเปิดใช้บริการมา 'สายอบอุ่น' รับปรึกษาปัญหาพนักงานกว่า 20,000 กรณี และยังเพิ่มอัตราการทำงานต่อของพนักงานอย่างชัดเจน อัตราการลาออกของพนักงานผิวสี พนักงานเชื้อสายสเปน และกลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกัน ลดลงจากร้อยละ 8.7 มาอยู่ที่ร้อยละ 7 ในปีนี้
เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลกว่า 20,000 กรณีของพนักงาน พบว่าปัญหาหลักมี 2 ประการ คือ การขาดความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและปัญหากับหัวหน้า ซึ่งเมื่อทราบปัญหาแล้ว อินเทล ตัดสินใจจัดการอบรมผู้จัดการกว่า 13,000 คน เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาเหล่านั้นจะกลายเป็นหัวหน้าที่ดีขึ้น
อ้างอิง; CNN