วันนี้ (25 กันยายน 2562)ที่ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกลผ่านวิดิโอคอนเฟอเรนซ์ มอบนโยบายการนำน้ำมันกัญชาไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์แก่เจ้าหน้าที่ 22 โรงพยาบาล ในโครงการวิจัยการใช้กัญชาทางการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก พร้อมส่งมอบน้ำมันกัญชาตำรับหมอพื้นบ้าน "สูตรนายเดชา ศิริภัทร" จำนวน 5,000 ขวด แก่โรงพยาบาลศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี 

โดยมีนายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นายเดชา ศิริภัทร, ภก.ดร.อนันต์ชัย อัศวเมฆิน อาจารย์ประจำภาควิชาเภสัชวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, นางสาวรสนา โตสิตระกูล อดัต ส.ว.,นายยืนยง โอภากุล และเครือข่ายร่วมเป็นสักขีพยาน โดยภายในงาน นายเดชา ได้มอบตำรับยา แก่กระทรวงสาธารณสุขด้วย

นายอนุทิน กล่าวว่า ได้มอบให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ทำโครงการวิจัยการใช้น้ำมันกัญชาตำรับหมอพื้นบ้าน สูตรนายเดชา ศิริภัทร ขนาดบรรจุ 5 ซีซี ปริมาณ 3,300 ลิตร จำนวน 660,000 ขวด ให้แก่โรงพยาบาลที่มีบริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทยและเข้าร่วมในโครงการวิจัยฯ เบื้องต้นมีจำนวน 22 แห่ง โดยวันนี้ ได้เริ่มส่งมอบน้ำมันกัญชาข้างต้น ให้โรงพยาบาลศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ไปใช้รักษาผู้ป่วยแล้ว ก่อนจะขยายการส่งมอบสู่โรงพยาบาลอื่นๆ ต่อไป

"ขอขอบคุณนายเดชาที่มอบสูตรยาให้กับภาครัฐ ทั้งที่นำไปผลิตขายเอง น่าจะทำกำไรมหาศาล การได้กลุ่มบุคคล อย่างนายเดชา, นส.รสนา, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย ม.รังสิต รวมทั้ง นายยืนยง โอภากุล มาช่วยผลักดัน ทำให้สามารถเดินหน้านโยบายได้ง่าย และก่อประโยชน์มากขึ้น เพราะลำพังเพียงฝ่ายการเมือง และกระทรวงสาธารณสุขผลักดันการใช้กัญชา จะถูกจำกัดแค่ในรูปแบบของยาแผนปัจจุบันเท่านั้น จะเสียโอกาสรับรู้คุณค่าของกัญชาในแพทย์แผนไทย และแพทย์ทางเลือกอย่างน่าเสียดาย"

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า หลังจากการส่งมอบน้ำมันกัญชา จะติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาด้านการแพทย์ต่อไป ส่วนที่มีการพาดหัวโดยสื่อบางฉบับว่าจะล้มเลิกนโยบายนี้ คิดว่ากิจกรรมที่ผ่านมาน่าจะเป็นคำตอบว่าเราเอาจริง และผลักดันเรื่องกัญชาเพื่อการแพทย์อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันได้ติดตาม และหาทางปรับปรุงการปฏิบัติงานโดยตลอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโรงพยาบาล 22 แห่ง ที่มีบริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทยและร่วมในโครงการวิจัยฯ มีดังนี้ เขตสุขภาพที่1 รพร.เด่นชัย จ.แพร่, รพ.เถิน จ.ลำปาง เขตสุขภาพที่ 2 รพ.บางกระทุ่ม, รพร.นครไทย จ.พิษณุโลก เขตสุขภาพที่ 3 รพ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ ,รพ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี เขตสุขภาพที่ 5 รพ.ดอนตูม จ.นครปฐม,รพ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ,รพ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เขตสุขภาพที่ 6 รพ.เฉลิมพระเกียรติฯ จ.ระยอง  

เขตสุขภาพที่ 7 รพ.พล จ.ขอนแก่น เขตสุขภาพที่ 8 รพ.พระอาจารย์ฝั้นฯ,รพ.วานรนิวาส , รพร.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ,รพ.ห้วยเกิ้ง จ.อุดรธานี ,รพ.หนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู เขตสุขภาพที่ 9 รพ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ เขตสุขภาพที่ 10 รพร.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ,รพ.พนา จ.อำนาจเจริญ เขตสุขภาพที่ 11 รพ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี เขตสุขภาพที่ 12 รพ.ป่าบอน จ.พัทลุง เขตสุขภาพที่ 13 รพ.การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน