ไม่พบผลการค้นหา
นักวิจัยทดสอบเรื่องความซื่อสัตย์ โดยสุ่มตัวอย่างจากพฤติกรรมของพลเมืองจาก 40 ประเทศ รวมถึงไทย ว่าจะทำอย่างไรกับกระเป๋าสตางค์ที่เก็บได้ พบ 'สวิตเซอร์แลนด์' เป็นประเทศที่มีเปอร์เซ็นต์ความซื่อสัตย์สูงสุด ส่วนไทยติดอันดับ 27 และ 'จีน' รั้งท้าย

คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาและสวิตเซอร์แลนด์เผยแพร่รายงานเรื่องความซื่อสัตย์ภาคพลเมืองทั่วโลก (Civic honesty around the globe) ซึ่งเป็นการทดสอบปฏิกิริยาของประชาชนรวม 17,000 คนใน 355 เมืองจาก 40 ประเทศทั่วโลก ว่าจะทำอย่างไรเมื่อได้รับกระเป๋าสตางค์ที่มีเงินและของสำคัญอยู่ในนั้น 

เบื้องต้น คณะผู้วิจัยตั้งสมมติฐานว่า กระเป๋าสตางค์ที่มีเงินอยู่ข้างในน่าจะมีผู้นำส่งคืนเจ้าของน้อยกว่ากระเป๋าที่ไม่มีเงินอยู่ข้างใน โดยประเมินว่าคนส่วนใหญ่มีข้อจำกัดด้านเศรษฐกิจ การได้รับกระเป๋าสตางค์ที่มีเงินอยู่ข้างในน่าจะส่งผลต่อการตัดสินใจของแต่ละบุคคลมากกว่า

ส่วนกระบวนการทดสอบเริ่มจากการที่นักวิจัยหรืออาสาสมัครนำกระเป๋าสตางค์ไปให้แก่พนักงานของบริษัท โรงแรม ธนาคาร โรงละคร รวมถึงเจ้าหน้าที่ในสถานีตำรวจที่สุ่มทดสอบ โดยระบุว่าเป็นกระเป๋าสตางค์ที่เก็บได้ในบริเวณใกล้เคียง แต่ผู้เก็บได้ไม่มีเวลาตามหาตัวเจ้าของกระเป๋า จึงขอให้พนักงานของหน่วยงานสาธารณะต่างๆ ช่วยดูแลต่อไป หลังจากนั้นนักวิจัยก็จะรอว่าผู้ที่ได้รับกระเป๋านั้นจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะของที่อยู่ข้างในจะรวมถึงข้อมูลผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นข้อมูลสมมติ แต่จะเป็นเบาะแสให้ผู้ได้รับกระเป๋าสตางค์ติดต่อกลับมายังคณะนักวิจัย

นอกจากนี้่ ของที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์แต่ละใบจะแตกต่างกันออกไป ในกรณีที่เป็นเงินสด จะใช้เงินสกุลท้องถิ่นของประเทศที่ทำการทดสอบ โดยเปรียบเทียบกับสัดส่วนค่าครองชีพ รวมถึงกุญแจ นามบัตร กระดาษจดรายการของที่ต้องซื้อ และเบอร์อีเมลติดต่อเจ้าของกระเป๋าสตางค์ แต่กระเป๋าสตางค์อีกจำนวนหนึ่งจะไม่มีทั้งเงินและกุญแจใดๆ พบว่าผู้ที่ได้รับฝากกระเป๋าที่มีเงินสดหรือกุญแจ จะติดตามหาตัวเจ้าของกระเป๋ามากกว่ากรณีที่กระเป๋าสตางค์ไม่มีเงินหรือของมีค่าอยู่ข้างใน

การทดสอบเรื่องกระเป๋าสตางค์-ความซื่อสัตย์ภาคพลเมือง Civic Honesty around the globe
  • ภาพจากวารสาร Science

ผลทดสอบบ่งชี้ด้วยว่า สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีผู้ติดตามหาเจ้าของกระเป๋าสตางค์มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 78 โดยผู้คนเหล่านี้จะได้รับคำตอบว่าเจ้าของกระเป๋าไม่สะดวกที่จะไปรับกระเป๋าคืน เพราะต้องรีบเดินทางหรือมีธุระด่วน พลเมืองที่ซื่อสัตย์และพยายามหาเจ้าของกระเป๋าตัวจริงก็จะได้รับเงินสดที่อยู่ในกระเป๋าเป็นรางวัล

คณะนักวิจัยตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ประเทศที่มีอัตราการติดตามหาเจ้าของกระเป๋าสตางค์สูงติด 5 อันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก และสวีเดน เป็นประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และประชากรมีส่วนร่วมในการกำหนดหรือตัดสินใจในนโยบายสาธารณะ ทำให้รายงานของนักวิจัยสรุปว่า องค์ประกอบเหล่านี้น่าจะมีส่วนทำให้พลเมืองของประเทศดังกล่าวคำนึงถึงจิตใจของผู้อื่น และไม่คิดจะเก็บสิ่งที่เป็นทรัพย์สินของผู้อื่นไว้กับตัว

ในกรณีของไทย อัตราการนำกระเป๋าสตางค์ส่งคืนเจ้าของอยู่ที่ร้อยละ 41 ในกรณีที่ในกระเป๋ามีเงิน แต่ถ้ากระเป๋าไม่มีเงินอยู่ข้างใน จะมีผู้ตามหาเจ้าของเพียงร้อยละ 22 เท่านั้น ทำให้ไทยติดอันดับที่ 27 จาก 40 ประเทศที่มีการทดสอบเรื่องความซื่อสัตย์ภาคพลเมือง

ส่วนประเทศที่มีการติดตามหาเจ้าของกระเป๋าสตางค์น้อยที่สุด คือ จีน โดยสัดส่วนผู้ตามหาเจ้าของกระเป๋าสตางค์ที่ไม่มีเงินอยู่ข้างใน อยู่ที่ร้อยละ 6 และการติดตามหาเจ้าของกระเป๋าสตางค์ที่มีเงินอยู่ข้างใน คิดเป็นร้อยละ 22 ของจำนวนกระเป๋าที่ใช้ทดสอบทั้งหมด

ภาพโดย Simon Rae on Unsplash

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: