การประชุม WEF Annual Meeting ประจำปี 2567 เป็นครั้งที่ 54 จะจัดขึ้น ภายใต้หัวข้อ “Rebuilding Trust” เน้นการฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่ออนาคต ความไว้เนื้อเชื่อใจในสังคม และระหว่างประเทศต่าง ๆ เพื่อรับมือกับความท้าทายของโลกปัจจุบัน ซึ่งการเข้าร่วม WEF ของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ นับเป็นการเข้าร่วมระดับผู้นำของไทยในรอบ 12 ปี นับตั้งแต่ปี 2555 ในสมัยนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเป็นการเยือนภูมิภาคยุโรปครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะตอกย้ำความพร้อมของไทยในการร่วมขับเคลื่อนประเด็นสำคัญของโลก และใช้โอกาสนี้พบปะหารือกับผู้นำทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจากทั่วโลก
กำหนดการสำคัญภายใต้กรอบ WEF นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วม 3 รายการ ได้แก่ 1. กล่าวเปิดการเสวนา Country Strategy Dialogue (CSD) on Thailand 2. การเสนอโครงการ Thailand Landbridge: Connecting ASEAN with the World และ 3. ร่วมเสวนา Learning from ASEAN ซึ่งจะมีผู้นำไทย เวียดนาม และกัมพูชา เข้าร่วมด้วย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังมีกำหนดการพบปะภาคเอกชนสำคัญ อาทิ ผู้บริหารบริษัทด้านเทคโนโลยี และ Solutions บริษัทท่าเรือ logistics บริษัทด้านการเงิน การธนาคาร บริษัทด้านโทรคมนาคม บริษัทด้านยาและวัคซีน บริษัทด้านอาหารและเครื่องดื่ม บริษัทด้านธุรกิจ Delivery และพบปะบุคคลสำคัญ อาทิ มาทีอัส คอร์มันน์ (Mathias Cormann) เลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD Klaus Schwab ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร WEF และ ผู้บริหารของ World Bank ด้วย
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะร่วมประชุม WEF ในครั้งนี้ เพื่อผลักดันบทบาทของไทยในการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือในโลก การส่งเสริมการค้าการลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนผ่านพลังงาน รวมถึงการส่งเสริมอุตสาหกรรม EVs อุตสาหกรรมเกษตรและอาหารที่ยั่งยืน เศรษฐกิจดิจิทัล ตลอดจนการส่งเสริมความเชื่อมโยงผ่านโครงการ Landbridge ให้แก่ผู้นำและผู้แทนระดับสูงจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม วิชาการ และสื่อชั้นนำต่าง ๆ ที่เข้าร่วม เพื่อนำผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมกลับมาให้พี่น้องชาวไทย