'เวียดเทลกรุ๊ป' ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือของเวียดนามกล่าวว่า ทางบริษัทกำลังพัฒนาเทคโนโลยี 5G เป็นของตนเองโดยไม่พึ่งพิงหัวเว่ย โดยมีสาเหตุในเรื่องความปลอดภัย หลังจากที่มีรายงานก่อนหน้านี้ที่ระบุถึงความปลอดภัยของหัวเว่ย โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง
'เราตัดสินใจไม่ใช้หัวเว่ย ไม่ใช่เพราะสหรัฐฯประกาศแบนหัวเว่ย แต่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของทางเวียดนามเอง หลายประเทศรวมถึงสหรัฐฯค้นพบหลักฐานที่บ่งบอกว่าเครือข่ายของหัวเว่ยนั้นไม่ปลอดภัย' เล ดังสุง ผู้บริหารของเวียดเทลกล่าว
ปัจจุบันเวียดเทลกำลังพัฒนาเครือข่าย 5G เป็นของตนเองโดยใช้ชิปของบริษัทควอลคอมและของบริษัทอื่นๆในสหรัฐฯ และอุปกรณ์สัญญาณ 5G นั้น เวียดเทลระบุว่าจะใช้อุปกรณ์ของโนเกียในฮานอย และอุปกรณ์ของอิริคสันในโฮจิมินห์
นอกจากเวียดเทลแล้ว บริษัทที่ให้บริการเครือการโทรคมนาคมในเวียดนามอย่าง 'โมบายโฟน' ก็หันมาใช้อุปกรณ์ส่งสัญญาณสื่อสารของบริษัทซัมซุงของเกาหลีใต้และบริษัท 'วีนาโฟน' ก็หันมาใช้อุปกรณ์ส่งสัญญาณสื่อสารของของโนเกียในการพัฒนาเครือข่ายและส่งสัญญาณ 5G เช่นกัน
หัวเว่ย บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีนถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้ที่ใช้บริการผ่านเครือข่ายอุปกรณ์สื่อสารของหัวเว่ย ปัจจุบันหลายประเทศในยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และสหรัฐฯต่างประกาศไม่อนุญาตให้นำเข้าเทคโนโลยีและติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารของหัวเว่ยในการพัฒนาเครือข่าย 5G โดยให้เหตุผลในเรื่องความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์
อย่างไรก็ตามหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างมาเลเซีย ฟิลิปปินส์และประเทศไทยต่างร่วมพัฒนาเทคโนโลยี 5G ร่วมกับหัวเว่ยพร้อมๆกับอีกกว่า 170 ประเทศที่มีการใช้เทคโนโลยีอุปกรณ์สื่อสารของหัวเว่ย
นอกจากนี้ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามและจีนก็เป็นปัจจัยหนึ่งในการปฏิเสธการใช้หัวเว่ยของเวียดนามที่สืบเนื่องมาจากปัญหาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนในทะเลจีนใต้และการโจมตีไซเบอร์จากทางรัฐบาลจีน ซึ่งเมื่อปี 2016 รัฐบาลเวียดนามถูกโจมตีไซเบอร์ในสนามบินฮานอยและสนามบินโฮจิมินห์ โดยกลุ่มแฮกเกอร์ดังกล่าวรัฐบาลเวียดนามระบุว่ามาจากจีน
ที่มา Bloomberg / venturebeat