ต่างประเทศ
มะกันสูญอดีตสตรีหมายเลขหนึ่ง ‘โรซาลีนน์ คาร์เตอร์’ เสียชีวิตในวัย 96 ปี
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 พ.ย.) ศูนย์คาร์เตอร์แถลงว่า โรซาลีนน์ คาร์เตอร์ “เสียชีวิตลงอย่างสงบ โดยมีครอบครัวอยู่เคียงข้างเธอ” ที่บ้านชานเมืองเพลนส์ในมลรัฐจอร์เจีย หลังจากเธอล้มป่วยลงด้วยโรคสมองเสื่อม และต้องทนทุกข์ทรมานจากสุขภาพที่ทรุดโทรมลงเป็นเวลากว่าหลายเดือนที่ผ่านมา
“โรซาลีนน์เป็นคู่ครองที่เท่าเทียมของผมในทุกสิ่งที่ผมเคยประสบกับความสำเร็จมา” จิมมี คาร์เตอร์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวในแถลงการณ์ “เธอให้คำแนะนำที่ชาญฉลาด และให้กำลังใจผมเมื่อผมต้องการ ตราบใดที่โรซาลีนน์ยังเคยอยู่บนโลกใบนี้ ผมได้รับรู้มาโดยตลอดว่ามีคนที่รักและสนับสนุนผม”
คู่สามีภรรยาคาร์เตอร์เป็นคู่สามีภรรยาประธานาธิบดีที่สมรสกันยาวนานที่สุด โดยทั้งสองแต่งงานกันในปี 2489 ในขณะที่เขามีอายุ 21 ปี และเธอมีอายุ 18 ปี ทั้งนี้ หลังจากหมดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงในปี 2524 อดีตประธานาธิบดีและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคาร์เตอร์ ได้มีบทบาทสำคัญในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงการเป็นส่วนหนึ่งของการก่อตั้งศูนย์คาร์เตอร์ และองค์กรการกุศล Habitat for Humanity ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
โรซาลีนน์ คาร์เตอร์ ถูกจดจำในฐานะผู้ที่ดูไม่อวดดีและเงียบสงบ ก่อนที่เธอจะกลายมาเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งในปี 2520 ต่อมาเธอได้พัฒนาทักษะการเป็นนักพูด นักรณรงค์ และนักเคลื่อนไหวที่มีคารมคมคาย นอกจากนี้ อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคาร์เตอร์ ยังเป็นผู้ส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มผู้ป่วยทางจิตเวชมาอย่างยาวนาน
ก่อนที่ จิมมี คาร์เตอร์ จะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2519 โรซาลีนน์ คาร์เตอร์ ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนักนอกมลรัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นที่ที่สามีของเธอเคยเป็นชาวไร่ถั่วลิสง ก่อนจะผันตัวมาเป็นผู้ว่าการมลรัฐจากพรรคเดโมแครต ทั้งนี้ จิมมี คาร์เตอร์ แพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีในสมัยที่ 2 เมื่อปี 2523 ให้กับ โรนัลด์ เรแกน อดีตผู้ว่าการมลรัฐแคลิฟอร์เนียจากพรรครีพับลิกัน และนักแสดงฮอลลีวูด
ขณะการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ครอบครัวคาร์เตอร์ทำงานบริหารประเทศร่วมกัน โดยอดีตประธานาธิบดีเรียกภรรยาของเขาว่าเป็น “ส่วนขยายของตัวผมเอง” และ “ที่ปรึกษาที่ใกล้ชิดที่สุดของผม” ทั้งนี้ โรซาลีนน์ คาร์เตอร์ มักจะได้รับเชิญให้นั่งเป็นผู้สังเกตการณ์ในการประชุมคณะรัฐมนตรีและการอภิปรายยุทธศาสตร์ทางการเมือง
ในการให้สัมภาษณ์กับบรรณาธิการนิตยสารเมื่อปี 2521 คาร์เตอร์กล่าวว่าเขาแบ่งปันเกือบทุกอย่างกับภรรยาของเขา ยกเว้นข้อมูลชั้นความลับสุดยอด “ผมคิดว่าเธอเข้าใจจิตสำนึกของคนอเมริกัน และทัศนคติของพวกเขา ซึ่งอาจจะดีกว่าที่ผมทำได้เสียอีก” อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าว
อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งยังเคยได้รับการส่งไปปฏิบัติภารกิจอย่างเป็นทางการที่สำคัญที่ลาตินอเมริกา และเธอยังเคยเป็นส่วนหนึ่ง ในการรณรงค์การให้สัตยาบันการแก้ไขสิทธิความเท่าเทียมกันภายใต้รัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้หญิงได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย แม้การรณรงค์ดังกล่าวจะไม่ประสบกับผลสำเร็จก็ตาม
ในวิกฤตการณ์จับตัวประกันในอิหร่าน ซึ่งนักการทูตสหรัฐฯ และคนอื่นๆ ถูกจับเป็นตัวประกันในกรุงเตหะรานหลังการปฏิวัติอิสลามนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะที่คาร์เตอร์พยายามหาเสียงเลือกตั้งครั้งใหม่ ทั้งนี้ วิกฤติดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของคาร์เตอร์อย่างรุนแรง จนเขาประสบกับความพ่ายแพ้การเลือกตั้ง เนื่องจากคาร์เตอร์ต้องห่างหายไปจากการเดินหน้าหาเสียง เพื่อจัดการกับวิกฤตที่เกิดขึ้นในอิหร่าน
ในระหว่างช่วงเวลาวิกฤตที่อิหร่าน โรซาลีนน์ คาร์เตอร์ ช่วยสามีของเธอด้วยการขึ้นพูดหาเสียงใน 112 เมืองจาก 34 มลรัฐ ระหว่างการทัวร์หาเสียงเป็นเวลา 44 วัน โดยในการกล่าวสุนทรพจน์และการวิจารณ์คู่แข่งของสามีเธอต่อหน้าฝูงชน ได้รับการยกย่องว่ามีส่วนช่วยให้คาร์เตอร์เอาชนะผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครตอย่าง เท็ด เคนเนดี้ ในการเลือกตั้งขั้นต้นเมื่อปี 2523 ได้สำเร็จ แม้ว่าอดีตประธานาธิบดีคาร์เตอร์จะพ่ายแพ้ให้กับเรแกนอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งทั่วไปก็ตาม
ความสนใจต่อประเด็นปัญหาสุขภาพจิตของ โรซาลีนน์ คาร์เตอร์ เกิดขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1970 เมื่อเธอเริ่มตระหนักถึงความลึกของปัญหาจิตเวชในมลรัฐจอร์เจีย และการที่ผู้คนไม่ใหความสำคัญต่อประเด็นความเจ็บป่วยทางจิตใจ ทั้งนี้ ในฐานะสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของมลรัฐจอร์เจีย โรซาลีนน์ คาร์เตอร์ เป็นสมาชิกของคณะกรรมาธิการผู้ว่าการมลรัฐ เพื่อปรับปรุงบริการต่างๆ สำหรับผู้ป่วยทางจิต
ที่มา:
