ไม่พบผลการค้นหา
'เพื่อไทย' ห่วงน้ำมันราคาพุ่ง 'ประยุทธ์' บริหารไม่เป็น ทำเศรษฐกิจไทยยิ่งทรุดหนัก ชี้ค่าใช้จ่ายพุ่ง ต้องลดค่าเดินทาง แนะ ฟื้นรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี เร่งช่วยค่าครองชีพประชาชนและปรับเปลี่ยนประเทศ

กฤษฎา ตันเทอดทิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดหนองคาย อดีตรองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันยังน่าเป็นห่วง แม้ว่าจะปรับลดลงมาบ้างแล้ว แต่อาจจะเป็นแค่ชั่วคราว โดยเชื่อว่าราคาน้ำมันยังจะเป็นขาขึ้น และ สงครามรัสเซียยูเครนยังไม่น่าจะจบลงง่ายๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบถึงราคาน้ำมัน และวัตถุดิบอื่นๆ รวมถึงแร่ธาตุต่างๆ ได้ขึ้นราคาตามไปด้วย เช่น เหล็ก อลูมิเนียม พาลาเดียม ทองคำ เป็นต้น นอกจากนี้ยังทำให้ ปุ๋ยและอาหารสัตว์ราคาสูงขึ้นมาก ดังนั้นต้นทุนการผลิตของสินค้าที่ต้องใช้วัตถุดิบเหล่านี้จะมีราคาแพงขึ้นไปด้วย

นอกจากนี้ การที่น้ำมันแพงยิ่งทำให้ค่าขนส่งที่แพงอยู่แล้วยิ่งแพงขึ้นไปอีก ทั้งการขนส่งทางบก ทางทะเล และ ทางอากาศ และสงครามรัสเซียยูเครนยังส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทาน supply chain ที่เป็นปัญหาอยู่แล้วให้มีปัญหามากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้สินค้าขาดแคลนและจะมีราคาสูงเพิ่มขึ้น 

ดังนั้น จึงไม่แปลกใจเลยที่ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ออกมาเตือนว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะหนักหนาสาหัสและจะขยายตัวได้ต่ำกว่ารัฐบาลคาดไว้ รวมถึงสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจของหลายธนาคาร ทั้งกสิกรไทย กรุงไทย และ ซีไอเอ็มบี ได้ให้ความเห็นคล้ายกัน ซึ่งเป็นไปตามที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้คาดการณ์ล่วงหน้าไว้แต่แรกแล้ว ทั้งนี้ ถึงแม้ไม่มีสงครามรัสเซียยูเครน ราคาน้ำมันก็ยังมีคงจะขึ้นสูงจากความต้องการใช้น้ำมันที่มีมากกว่าปริมาณน้ำมันที่ผลิตได้ และถึงแม้สงครามจะสิ้นสุดเร็ว ราคาน้ำมันก็น่าจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกิน $100 ต่อ บาร์เรลต่อไป 

ในสถานการณ์เช่นนี้ หากผู้นำคิดได้แค่ว่าให้ประชาชนใช้รถยนต์เท่าที่จำเป็น ให้ช่วยกันล้างแอร์ หรือ ให้ใช้รถเมล์แทนรถส่วนตัว ซึ่งเป็นแนวคิดสมัยเก่ามาก คงไม่สามารถจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังถาโถมเข้ามาได้ ต้องไม่ลืมว่าประชาชนต้องประสพปัญหาเศรษฐกิจที่ย่ำแย่มาตลอด 7 ปี มาเจอวิกฤติไวรัสโควิดอีก 2 ปี แล้วยังต้องมาเจอกับสงครามรัสเซียยูเครนอีก

ดังนั้นจึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้หาแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่จำเป็น โดยจะต้องพิจารณาหลายด้านพร้อมการปรับเปลี่ยนประเทศไปพร้อมกัน ในส่วนของการช่วยเหลือลดค่าใช้จ่าย พล.อ.ประยุทธ์น่าจะต้องพิจารณานำนโยบายเก่าของพรรคพลังประชาชนที่ให้ใช้รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี มาช่วยผู้มีรายได้น้อยในภาวะเช่นนี้ และต้องหาทางลดราคาระบบขนส่งมวลชนที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อให้ประชาชนได้ระบบขนส่งมวลชนในราคาที่ถูกลงและลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว รวมถึงเร่งโครงการรถไฟความเร็วสูงที่ใช้พลังงานไฟฟ้าด้วย อีกทั้งส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าทดแทนการใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันให้มากขึ้นและเร็วขึ้น โดยเริ่มจากรถยนต์ราชการ และรถประจำตำแหน่ง รวมถึงส่งเสริมพาหนะอื่นที่ใช้พลังงานไฟฟ้าด้วย 

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ควรต้องเร่งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียนเพื่อทดแทนไฟฟ้าที่ผลิตจากฟอสซิลซึ่งเป็นทิศทางของโลก และ เร่งเจรจาหาแหล่งพลังงานราคาถูกเพื่อมาลดค่าใข้จ่ายแก่ประชาชน โดยต้องปรับเปลี่ยนประเทศให้ทันสมัยควบคู่ไปกับการแก่ไขปัญหาเศรษฐกิจด้วย เพราะหากจะแก้ไขปัญหาวันต่อวันแบบที่พลเอกประยุทธ์ดำเนินการอยู่ประเทศไทยจะไม่พัฒนาไปไหนเลย 

ในทุกวิกฤตจะมีโอกาส ผู้นำที่ฉลาดจะต้องหาทางพัฒนาประเทศไปพร้อมกับการแก้ไขปัญหาวิกฤติ ซึ่งหากพลเอกประยุทธ์ไม่เข้าใจหรือคิดไม่ได้ พลเอกประยุทธ์น่าจะล้าหลังเกินไปที่จะบริหารประเทศนี้ต่อไปแล้ว เพราะสถานการณ์ข้างหน้าจะหนักหนาสาหัสกว่าปัจจบันมากซึ่งด้วยความรู้ความสามารถของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่น่าจะรับมือกับปัญหาได้