ไม่พบผลการค้นหา
"ภูมิธรรม" มั่นใจ โหวตเศรษฐา รอบเดียวจบ เห็นหน้าตารัฐบาลไม่เกินสิ้นเดือนนี้ ไม่หวั่น "ชูวิทย์" แฉอีกวัน นักการตลาดชอบสร้างความตื่นเต้น ตอบ "ชัยธวัช" ปมปูดถูกบีบเก้าอี้ รมต. "ขอบคุณ แต่คนในพรรคเขารู้ดีกว่า"

วันที่ 15 ส.ค. ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงแนวทางในการรวบรวมเสียงว่า เท่าที่ดูแนวโน้มและทิศทางที่เดินพรรคการเมืองต่างๆ ที่อยู่ในสภา เว้น 2-3 พรรค ที่ประกาศตัวชัดเจนเป็นฝ่ายค้าน จะเป็นโอกาสดีที่ได้พรรคการเมืองหลายพรรคมาร่วมแก้วิกฤติประเทศ ค่อนข้างมั่นใจว่า เสียงที่พรรคเพื่อไทยได้มา จะเพียงพอ เป็นรัฐบาลที่มีความเข้มแข็งได้ รอวันโหวตนายกฯ เสนอนัดมาวันไหน ไม่ว่าจะเป็น 18-21 ส.ค.พรรคเพื่อไทยก็พร้อม และยังเชื่อว่า ภายใต้กติกาที่มีข้อจำกัด จะเสนอให้โหวตผ่านไปในครั้งเดียว ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ที่จะยกให้ 40 เสียง แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมานั่งแถลงจับมือกัน เพราะยังไม่ใช่เป็นวาระสำคัญ สิ่งสำคัญคือเข้าใจและเห็นแนวทางที่จะมาแก้ปัญหาประเทศร่วมกัน ให้แก้วิกฤติทั้ง 3 เรื่อง ซึ่งพรรคพลังประชารัฐได้แสดงจุดยืนแล้ว ยินดีจะเข้าร่วมรัฐบาลโดยไม่ได้คำนึงถึงตำแหน่งเก้าอี้ หรือกระทรวง และเสนอ เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี

โดย ภูมิธรรม ยังยืนยันว่า ไม่ได้มีการตกลงแบ่งกระทรวงกันก่อนโหวตอย่างที่มีกระแสข่าว และมีบางพรรคไม่พอใจในช่วงหยุดยาวที่ผ่านมา ไม่ทราบว่าไปได้ยินข่าวนี้มาจากไหน แต่ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทย สร้างความมั่นใจและเชื่อใจให้เกิดขึ้น และต้องดูว่าจะทำอย่างไร แต่ทั้งหมดก็พร้อมให้ความร่วมมือและโหวตในวันที่จะมีการโหวตนายกฯ ไม่มีปัญหาอย่างที่สื่อตั้งข้อสังเกต ซึ่งตนเองไม่ได้กังวลกับเรื่องนี้ และยังเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ละพรรคการเมืองจะบอกว่ามีความถนัดมีความเชี่ยวชาญ มีนโนบายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องไหน แต่ทั้งหมดเป็นการพูดเบื้องต้น ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้บอกไปแล้วว่า เราจะเลือกนายกฯ เลือกแกนนำให้สำเร็จ หลังจากนั้นจึงจะมาคุยวางแนวทางวิกฤติการณ์ 3 ด้าน และไม่ได้จะมาแย่งงานแย่งกระทรวง หากเลือกนายกฯ ได้ ก็จะมาประชุมร่วมกันทุกพรรค เพื่อตั้งรัฐบาลได้ในเร็ววัน 

ส่วนการประชุม สส. วันนี้ อาจจะมี สส.ไม่พอใจ และมีความเห็นต่างที่เอาพรรค 2 ลุงมาร่วม ภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเองไม่ได้ยินเรื่องนี้ แต่รู้สึกว่าทุกคน ให้กำลังใจทีมเจรจา ให้สามารถทำงาน ต่อไปได้ ยอมรับว่าวันนี้เราก็คิดกันหลายเรื่อง เพราะอยู่ภายใต้ข้อจำกัด ไม่อาจจะเลือกควสมต้องการตามที่ปรารถนาได้ทั้งหมด เมื่อตัวเลขออกมาแบบนี้ จึงรอไม่ได้ 8-9 เดือน ปัญหาเพิ่มมาตลอด จึงจำเป็นต้องเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด คือสิ่งสำคัญตอนนี้ 

ทั้งนี้ ภูมิธรรม ยอมรับตัวเลขคณิตศาสตร์ทางดารเมืองแบบนี้ เป็นความยากลำบากมาก จะจัดการหรือผสมกันยังไงก็ไม่ผ่าน ถ้าจะจับขั้วกันภายใต้ พรรคฝ่ายค้านเดิม ยังไงก็ได้ตัวเลขเท่านี้ เพราะทุกฝ่ายก็แสดงท่าทีชัดเจน การที่พรรคเพื่อไทยตัดสินใจเดินทางนี้ ส่วนหนึ่งเพราะการสลายความขัดแย้ง ถ้าไม่มีจุดเริ่มต้น ก็ยากที่จะทำได้

ภูมิธรรม บอกว่า วันนี้พรรคเพื่อไทย อาสาหินก้อนแรกที่จะขยายเส้นทาง ทำให้ความขัดแย้งลดลง และขยายความร่วมมือกันให้มาก และพรรคเพื่อไทยตัดสินใจแล้วพร้อมจะเดินไปข้างหน้า และจะแก้ไขปัญหาของประเทศด้วยเงื่อนไขที่จำกัด เชื่อว่าคิดใหญ่แล้ว ต้องใจใหญ่บนเส้นทางที่คับแคบ ต้องฝ่าไปให้ได้ ถ้าพรรคเพื่อไทยตัดสินใจผิดพลาดยังไง ในฐานะนักการเมืองจะรับผิดชอบสิ่งที่จะเกิดขึ้น 

ส่วนการประชุม สส.วันนี้ ก็จะมารับฟังเสียงสะท้อน แต่คิดว่าไม่มีเสียงอะไรที่แตกต่างหรือเป็นลบมาก ในไลน์ในกลุ่ม สส.ได้มีการประสาน ติดต่อ สส. พูดคุยเล่าเหตุการณ์อยู่ตลอด แต่ยินดีที่จะรับฟังทุกความเห็นเพื่อนำไปปรับปรุงและเปลี่ยนแปลง เพราะการเมืองเปลี่ยนทุกชั่วโมง 

ภูมิธรรม ยังกล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทย จะจัดตั้งรัฐบาลให้เห็นภาพภายในเร็ววันนี้ และภายในปลายเดือนสิงหาคม ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน น่าจะได้รัฐบาลมาบริหารประเทศ 

ส่วนที่ ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล บอกว่า พรรคเพื่อไทยกำลังถูกบีบจากการต่อรองเก้าอี้กระทรวง ก็ขอบคุณ ชัยธวัช แต่ไม่มีใครมารู้ดีเท่าคนในพรรคเพื่อไทย วันนี้พรรคเพื่อไทย ก็สบายๆ เพราะเอาผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงคุยกันง่าย และการตั้งรัฐบาลของเพื่อไทย ก็ไม่ได้ใช้วิธีแบบพรรคก้าวไกล ถ้ารู้ว่าทางนั้น เป็นทางที่ยากลำบาก ทางตัน จึงหาทางใหม่ ส่วนที่บอกว่าคับแคบ แสดงว่าเป็นทางที่มีอุปสรรค แต่ด้วยการคิดที่ใจใหญ่ อยากให้ทุกฝ่ายเคารพในการเป็นพรรคการเมืองของทุกพรรคการเมืองที่มาจากประชาชน พรรคเพื่อไทย ก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคมาได้จนทุกวันนี้ ขณะนี้ทำความเข้าใจไปหลายเรื่อง คิดว่าเป็นทางออกที่ดี จึงอยากให้ประชาชนมั่นใจว่า ความเดือดร้อนของประชาชนที่มีอยู่กำลังได้รับการแก้ไข ส่วนรัฐธรรมนูญ ยังไม่อาจแก้ไขได้ในเร็วไว แต่อยากจะเปิดประตูบานแรกให้ประชาชน ได้มาสร้างรัฐธรรมนูญด้วยกัน หากพรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาล จะบอกได้เลยว่ามีเรื่องแรกมาแก้ไข 

ส่วน สว. ที่ต้องการให้นายเศรษฐา ไปแสดงวิสัยทัศน์ในวันโหวต ก็ว่าไปตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด อันไหนกำหนดให้ทันก็ยินดีทำ ขณะที่เสียงสนับสนุนของสว . นั้น คิดว่าโอกาสของพรรคเพื่อไทย ที่จะได้เสียงจากสว.มีแนวโน้มจากหลายคนที่จะโหวตให้ซึ่งถือเป็นทิศทางที่ดี และคิดว่าจะได้เสียงสว.มากกว่าที่เคยโหวตก่อนหน้านี้ 

ส่วนที่มีการวิเคราะห์ว่า การโหวตนายกฯ ชื่อ เศรษฐา ไปต่อไม่ได้ ท้ายที่สุด จะถูกบีบให้เสนอ แพทองธาร และจบที่ พล.อ.ประวิตร นั้น ภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องมีแผนสำรอง เพราะไม่เชื่อจะเป็นแบบนั้น เชื่อว่าจะโหวตครั้งเดียวผ่าน จะเป็นวันที่ 18 หรือ 22 ส.ค.ก็ได้ ขออย่างกังวล เพราะเพื่อไทยได้ทำอย่างเต็มที่ และรู้ว่าที่ผ่านมา พรรคการเมืองอันเดับหนึ่งได้ทำ และมีปัญหาอะไรบ้าง เพื่อไทยได้แก้ปัญหานั้น และได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการอธิบายกับทุกส่วน ที่จะร่วมมือกับเรา ทั้ง สว.คุยแล้วก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ขณะนี้ควรระมัดระวัง เพราะแต่ข่าวคาดการณ์ ข่าวคิดว่าจะเป็นอย่างนู่นอย่างนร้ บางทีก็เป็นประเด็นข่อมูลที่มาเพิ่มเติมให้คิด แต่อย่าเอามาใส่ใจให้มาก เพราะอาจไม่เป็นข้อเท็จจริง และทำให้ความเกิดความสับสน 

ส่วนที่ น.อ.ศิธา ธิวารี แคนดิเดตนายกพรรคไทยสร้างไทย ออกมาแสดงความเห็น ท้ายที่สุด นายกฯ เป็นของลุงป้อม ก็ไม่เป็นไร เพราะก็เป็นคนหนึ่งที่พูดได้เรื่อยๆ วิจารณ์คาดการณ์กันไป แต่ภายใน 1-2 เดือนนี้ทุกอย่างจะชัดเจน ว่าใครอยูาบนความเป็นจริง และใครดีแต่คัดค้านและพูดไปเรื่อย บางอย่างไม่เป็นตามที่เขาคิดอาจจะหงุดหงิดไปบ้าง จึงเป็นความเห็นต่าง แต่เพื่อไทยยินดีรับฟัง 

นายภูมิธรรม ยังพูดถึงกรณี ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง จะแฉข้อมูลที่ดิน เศรษฐา ตอนสองนั้น เชื่อว่า อาจจะไม่ส่งผล แต่หากใครทราบและรู้จัก ชูวิทย์ ถือเป็นนักการตลาดคนสำคัญคนหนึ่ง ทำเรื่องให้ตื่นเต้นตลอด แต่ผลที่ผ่านมาในอดีตเป็นอย่างไร ก็พิจารณากันเอง เชื่อประชาชนมีวิจารณญาณ