บรรยากาศการรับสมัครผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. กรุงเทพมหานครวันแรกที่อาคารกีฬาเวศน์ 2 ศูนย์กีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง หลายพรรคการเมืองยกทีมมาสมัคร ได้แก่ พรรรเพื่อไทย นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง, พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค, พรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรร, พรรคประชาชาติ นำโดย นายวรวีร์ มะกูดี รองหัวหน้าพรรค และนายทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค, พรรคพลังธรรมใหม่ นำโดย นพ.ระวี มาดฉมาดล หัวหน้าพรรค พรรคพลังท้องถิ่นไทย นำโดย นายชัชวาล-ชื่นชอบ คงอุดม และฟิล์ม รัฐภูมิ
เพื่อไทย นั่งมอเตอร์ไซด์มั่นใจเบอร์ต่างชนะหมดเพราะเป็นเบอร์ดี
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ได้นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้าง มายังหน้าทางเข้าสนามกีฬาไทย ญี่ปุ่น ดินแดง โดยทันทีที่ลงจากรถจักรยานยนต์รับจ้าง ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า การที่ตนเองนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างมา เนื่องจากการจราจรติดขัด โดยก่อนเดินทางมายังจุดรับสมัคร ได้ไหว้พระขอพรซึ่งเชื่อมั่นในความตั้งใจดี คิดดี และจะทำดีเพื่อนำพาประเทศชาติเดินหน้าไปสู่ความสงบสุขแบบมีคุณภาพ ประชาชนสามัคคีปรองดอง โดยในวันนี้ผู้สมัครของพรรคได้กระจายไปยังจุดต่างๆทั่วประเทศ อย่างเช่น นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค ได้ไปประจำอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ , นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ ได้ประจำจุดที่จังหวัดนครราชสีมา ส่วนเบอร์พรรค เป็นเบอร์อะไรก็ได้ เพราะไม่สามารถเลือกได้อยู่แล้ว แต่เบอร์อะไรก็เป็นเบอร์ดีของเรา ทุกเบอร์ชนะหมด ไม่จำเป็นต้องเป็นเบอร์หลักเดียวหรือสองหลัก
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า แม้การเลือกตั้งครั้งนี้พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่เดิมของพรรคประชาธิปัตย์ ที่อาจจะเป็นการแบ่งเขตที่ทำให้พรรคเสียเปรียบ แต่พรรคก็จะสู้ เพราะที่ผ่านมาก็สู้กับกระบวนการที่ไม่เป็นธรรมมาแล้ว ทั้ง มาตรา 44 ในช่วงก่อนเลือกตั้ง
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นว่าบรรยากาศเลือกตั้งเป็นสิ่งที่ดี และเป็นผลดีต่อประชาชนที่จะตัดสินใจอนาคตด้วยตนเอง ขณะที่การออกกฎหมายหาเสียงอาจทำให้บรรยากาศเงียบไปบ้าง
ทษช.มั่นใจประชาชนเลือกเพราะจะได้รัฐบาลที่มาจากประชาชน
ด้าน ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ เปิดเผยว่า บรรยากาศการรับสมัครในวันนี้ ก็เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศรอคอยบรรยากาศเหล่านี้มาอย่างยาวนาน แม้ว่าไทยรักษาชาติ จะส่งเพียงแค่ 8 เขต ในพื้นที่ กทม. แต่คาดหวัง กับการเลืกกตั้งในครั้งนี้ ผู้สมัครที่ส่วนใหญ่ เป็นนักการเมืองหน้าใหม่ แต่ก็พร้อมที่ จะทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าพรรคไทยรักษาชาติ เป็นพรรคเครือข่ายพรรคเพื่อไทย นั้น เรื่องนี้มองว่าประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ เพราะทางพรรคเอง ก็อยากทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ เพราะอย่างน้อยเราก็จะได้รัฐบาลที่มาจากประชาชน รัฐบาลที่เปิดให้มีสิทธิเสรีภาพ
ขณะที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรค เชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเก่าแก่ จะเป็นรัฐบาลได้ต้องรวมกับพรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่านั้น จึงเห็นว่าถ้ามีการรวมกันจริงก็จะส่งผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในการลงคะแนนเสียง เพราะที่ผ่านมาประจักษ์แล้วว่ารัฐบาลบริหารล้มเหลวอย่างไร
อนาคตใหม่ มั่นใจได้รับเลือกแม้ไม่เคยมีฐานเสียง เพราะคนกรุงต้องการเปลี่ยนแปลง
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางมาพร้อมสมาชิกพรรคด้วยรถเมล์ เปิดเผยว่า พรรคอนาคตใหม่จะส่งผู้สมัครครบทั้ง 30 เขต แม้ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ แต่เชื่อว่าจะตอบโจทย์ พร้อมอยากให้ประชาชนจะเลือกการเมืองแบบเก่าที่มีการซื้อเสียงแบบนั้นและจะเอาคนที่มีประสบการณ์แบบนั้นหรือไม่ ดังนั้นการแก้ปัญหาเหล่านี้ต้องกลับมาทำงานในรัฐสภา เพื่อเอาคืนศัทธาของคนไทยกลับมาตามระบอบประชาธิปไตย
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า มั่นใจว่าพื้นที่กรุงเทพมหานครจะเป็นฐานเสียงของพรรคอนาคตใหม่แม้จะไม่มีอดีต สก. สข. ของกรุงเทพฯ มาเป็นผู้สมัคร แต่เชื่อว่าคนกรุงเทพต้องการการเปลี่ยนแปลง และการที่หลายคนปรามาสว่าการส่งผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคเป็นการเก็บคะแนนสำหรับบัญชีรายชื่อ ตนคิดว่าไม่เป็นความจริง เพราะผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตหลายคนมีความรู้ความสามารถที่หลายหลาก อีกทั้งพฤติกรรมการลงคะแนนของคนกรุงเทพเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาจึงเชื่อว่าจะได้ ส.ส. หลายที่นั่ง พร้อมกันนี้ปฏิเสธว่าไม่กังวลที่พรรคเพื่อไทยเลือกนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นแคนดิเดตในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคจะทำให้คะแนนเสียงของพรรคอนาคตใหม่เทไปอยู่ที่พรรคเพื่อไทย เพราะตนเห็นว่าการแข่งขันกันด้วยนโยบายเป็นเรื่องที่ดีกว่าการสาดโคลนเหมือนที่เคยทำมาในอดีต
รปช. แม้เป็นพรรคใหม่ แต่มั่นใจประชาชนเลือกจากนโยบาย
ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ตนไม่อยากพูดว่ามั่นใจมากน้อยแค่ไหนเพราะยังเหลือเวลาอีกประมาณ 60 วันอีกครั้งพรรคของตนยังเป็นพรรคใหม่ จึงไม่สามารถประมาทคู่แข่งได้ นอกจากนี้ยังไม่แน่ใจว่า กปปส. ที่เป็นฐานเสียงหลักของพรรคจะยังชื่นชอบในแนวทางของพรรคมากน้อยแค่ไหน แต่มั่นใจว่านโยบายของตนดีพอ ซึ่งในวันนี้ ม.ร.ว.จัตุมงคลได้คล้องผ้าขาวม้าเข้ามาส่งผู้สมัครเนื่องจากชูนโยบายการพัฒนาและฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น และต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับท้องถิ่นในการที่จะเจรจาต่อรองกับรัฐบาลกลางได้โดยตรง อย่างไรก็ตามพรรคยังมีปัญหาเรื่องว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตหลายคนถอยตัวไปโดยไม่แจ้งล่วงหน้าซึ่งพรรคกำลังแก้ปัญหานี้ให้ทันภายในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ และคาดว่าจะส่งผู้สมัครได้ครบทุกเขต ส่วนเรื่องแคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีของพรรครวมพลังประชาชาติไทย หัวหน้าพรรคยอมรับว่าเนื่องจากเป็นพรรคใหม่และพรรคเล็กจึงไม่เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ แต่จะรอดูผู้ที่มีความเหมาะสม และยังไม่ยืนยันว่าจะเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาหรือไม่ ขณะเดียวกันนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาพร้อมว่าผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ ได้ทักทายกับ ม.ร.ว.จัตุมงคล และนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ และถ่ายรูปร่วมกัน
ชาติไทยพัฒนามั่นใจประสบการณ์พื้นที่ส่งผู้สมัคร 30 เขต
ด้านนายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร พรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นครั้งแรกที่พรรคชาติไทยพัฒนาส่งผู้สมัคร ส.ส. ครบทั้ง 30 เขตในกรุงเทพมหานคร แม้วันนี้หัวหน้าและแกนนำพรรคจะเดินทางไปที่จังหวัดสุพรรณบุรีเพราะเป็นฐานเสียง แต่มั่นใจว่าผู้สมัครกรุงเทพมหานครมีประสบการณ์ รวมทั้งตนเองที่อยู่ในพื้นที่มากกว่า 17 ปีทราบปัญหาในกรุงเทพฯเป็นอย่างดี เช่น เรื่องความปลอดภัย, คลอง, และความเป็นอยู่ ซึ่งที่ผ่านมามีสองพรรคใหญ่เป็นเจ้าของพื้นที่กรุงเทพฯ แต่ลายปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข หลังจากนี้พรรคชาติไทยพัฒนาจะเน้นการเดินหาเสียง และไม่ขึ้นรถแห่เพราะมีแต่เสียง แต่ไม่มีคะแนน
พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เชื่อว่าผลการเลือกตั้งในกทม.จะเปลี่ยนไปจากเดิม และปัญหาหลักที่ต้องได้รับการแก้ไขต้องแก้ที่ทหาร ดังนั้นถ้าอยากจะให้แก้ไขจุดนี้ต้องเลือกพรรคเสรีรวมไทย ที่มีนโนโยบายแก้ปัญหาของสังคมและยาเสีพติด รวมทั้งปัญหาคอร์รัปชัน ส่วนพล.อ.ประยุทธ์นั้น ต้องลาออกได้แล้วเพราะเข้ามาโดยยึดอำนาจเขามา ถ้าอยากแข่งขันต้องแข่นขันอย่างเท่าเทียมกัน ตอนนี้เขาไม่เชื่อแล้วว่าพล.อ.ประยุทธ์ เรียนจบจากรั้ว จปร. เพราะ จปร.เขาสอนให้เป็นสุภาพบุรุษ ไม่ใช่สิ่งที่เป็นอยู่ในขณะนี้
ภท. ยืนยันนโยบายทำได้จริง มีทั้งหน่วยงาน ภาครัฐ-เอกชน นำไปใช้แล้ว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม กรรมการบริหารพรรค และนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรค เดินทางมาให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 30 เขต ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โดยนายอนุทิน ได้ตอบถึงเหตุผลการส่งผู้สมัคร ส.ส.กทม.เต็มพื้นที่ 30 เขต ว่า เนื่องจากพรรคเต็มไปด้วยคนทำงานมีประสบการณ์ เข้าใจความรู้สึกของชาวบ้าน พรรคมองเห็นว่าปัญหาของคนกรุงเทพมหานครคือ เรื่องการจราจร ทำอย่างไรไม่ให้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ เข้ามาในกรุงเทพฯ โดยการทำงานที่บ้านสัปดาห์ละ 1 วัน เรียนที่บ้านสัปดาห์ละ 1 วัน บางทีมันต้องทำอะไรที่มันแรง ๆ เพราะว่า ถ้าไปบอกจะเพิ่มผิวการจราจร สร้างถนนเพิ่ม หรือ สร้างระบบขนส่งมวลชนเพิ่มอีก 6-7 ปี ไม่ทันใจ และเส้นเดิมยังทำไม่เสร็จก็เพิ่มเส้นใหม่ขึ้นมาอีก ปัญหาการจราจรและมลพิษเพิ่มขึ้น
“ผมยืนยันว่านโยบายพรรคภูมิใจไทยทำได้จริง พูดไปไม่ทันไร ทั้งภาคเอกชนและราชการ ตอบรับกันหลายหน่วยงาน เราไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์อะไร ใครที่มีอำนาจอยู่ในตอนนี้ จะเอาไปปฏิบัติก็ยินดี เพราะว่ามันไม่ไหวแล้ว”หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว
ส่วนการตั้งเป้าหมายในการเลือกตั้งครั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า พูดไปจะทำให้ 1.กดดันตัวเอง 2.กดดันผู้สมัคร และไม่ให้เกียรติประชาชนผู้ลงคะแนน เพราะฉะนั้นบอกได้อย่างเดียว เราคิดนำเสนอนโยบายที่ดีที่สุด เรามีคนพร้อมที่จะทำงาน และมั่นใจว่าเราทำงานสำเร็จ ตามบันทึกที่มีมาในอดีต แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอ
ส่วนนโยบายพรรคภูมิใจไทย ต้องการเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า นโยบายของพรรคภูมิใจไทยอย่าไปบอกว่าเจาะกลุ่มรุ่นไหนเลย นโยบายของเรา คือแก้ไขปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชน ทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะกรุงเทพมหานคร เพียงแต่ละจุดแต่ละพื้นที่ เราจะเอานโยบายใดไปแก้ไขปัญหากับพี่น้องประชาชน อย่างกรุงเทพมหานคร เรื่องการจราจรมาเป็นอันดับแรก เราก็มีนโยบายเรื่อง Grab แทกซี่ มีความสะดวก แต่ยังไม่มีกฎหมายมารองรับ พรรคภูมิใจไทยจัดทำกฎหมายมารองรับ เรื่องทำงานไม่ต้องเข้ามาในเมือง พรรคภูมิใจไทย ให้มีพื้นที่ทำงาน เรียกว่า Co Working Space ให้ทุกคนได้มาทำงาน ยิ่งธุรกิจสมัยนี้ไม่ต้อง มาเช่าสำนักงาน ไม่ต้องเข้ามาในเมืองกันทุกคน แต่ละคนมีความสามารถก็ไปพบกัน มีห้องประชุมชั่วคราว มีห้องทำงานชั่วคราว มีอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ รัฐจะต้องจัดหาให้
ปชป.ยืนยันเลือกผู้สมัครแต่ละเขตมาเป็นอย่างดี ย้ำเลือกตั้งต้องสร้างสรรค์
นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าทางพรรคคัดเลือกผู้สมัครในแต่ละเขตมาเป็นอย่างดี หลังจากนี้จะสื่อสารในเรื่องนโยบาย เศรษฐกิจ และไม่ให้การเมืองกลับมาเป็นอย่างเดิม ส่วนการทำลายป้ายหาเสียงของผู้สมัครบางเขตของพรรค ยอมรับว่าเกิดขึ้นทุกสมัยจึงอยากขอให้บรรยากาศการเลือกตั้งเป็นไปอย่างสร้างสรร ส่วนการที่เจ้าหน้สที่ตำรวจติดตามความเคลื่อนไหวของผู้สมัครภายในพรรค ส่วนตัวมองว่า หากตามเพื่อดูแลความปลอดภัยก็สามารถทำได้ แต่ขอให้ดูแบบเหมาะสมและอย่าจำกัดเสรีภาพ
พลังประชารัฐ ยืนยันไม่ใช่พรรคสืบทอดอำนาจ
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พรรคเน้นนโยบายที่ตอบโจทย์และตรงจุด ส่วนเรื่องเศรษฐกิจ พรรคมุ่งสู่เศรษฐกิจที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีไม่ได้มองแค่ปัจจุบัน พร้อมโต้ว่า “อยู่กับเรากระเป๋าตุง” อาจตุงเพียงชั่วคราว สักพักก็จะแฟ่บ แต่ของพรรคพลังประชารัฐจะตุงด้วยคุณภาพ ทั้งนี้ตนย้ำกับผู้สมัครว่าให้ทำงานเต็มที่ผ่อนไม่ได้ ทั้งนี้การที่พรรคมีคนรุ่นใหม่ถือเป็นจุดเด่นทางการเมือง แม้ กทม. จะมีพรรคเก่าจับจองพื้นที่ แต่ยืนยันว่าจะสู้เต็มที่ และเชื่อว่าการที่ประกาศชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคทำให้มีกระแสตอบรับที่ดีขึ้น และทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบตกลงจะขึ้นป้ายที่มีรูป พล.อ.ประยุทธ์ ทันที ส่วนนายสมคิด พรรคจะไปเชิญเร็วๆ นี้
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางพร้อมกับสมาชิกด้วยรถบัส ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคเพื่อการสืบทอดอำนาจ เพราะแข่งขันตามระบอบประชาธิปไตย สำหรับผู้นำที่คนไทยต้องการคือคนดีและคนเก่ง จึงเชื่อว่าตลอดการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะตอบโจทย์จุดนี้