นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับความเสี่ยงในการควบคุมเครื่องบินของสายการบินนกแอร์ หลังจากมีการอ้างอิงถึงกรณีคำสั่งข้อกำหนดสมควรเดินอากาศ (Airworthiness Directive) จากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) ที่ได้ออกบังคับให้สายการบินทั่วโลกที่มีการใช้เครื่องบินตระกูล Boeing 737 สำหรับ รุ่น 737-600, -700, -700C, -800, -900, -900 และ -900ER จะต้องมีการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบให้สายการบินที่มีการใช้งานเครื่องรุ่นดังกล่าวที่มีจำนวนไฟล์ทบิน (เที่ยวบิน) มากกว่า 3 หมื่นเที่ยวบิน เร่งตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนเครื่องที่ทำการบินไม่ถึง 2.6 หมื่นเที่ยวบิน หรือเครื่องที่ทำการบินไม่เกิน 1,000 เที่ยวบิน ต้องตรวจสอบปีกให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนนั้น

ทางบริษัทขอชี้แจงว่า สายการบินนกแอร์ มีฝูงบินทั้งหมด 22 ลำ มีเครื่องบินตระกูล Boeing 737-800 ในฝูงจำนวน 14 ลำ และ Q400 จำนวน 8 ลำ โดยมีเครื่องบินเพียง 1 ลำเท่านั้น ที่มีจำนวนไฟลท์บินมากกว่า 3 หมื่นเที่ยวบิน โดยทางสายการบินนกแอร์จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้าตรวจสอบภายในวันที่ 8 ตุลาคม 2562 นี้ ตามข้อกำหนดของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) และ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) 

"สายการบินนกแอร์ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นที่สุด และได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบด้านความปลอดภัยตามกฎข้อบังคับมาตรฐานสากลในวันนี้อย่างทันที เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารในทุกเที่ยวบินที่ใช้บริการสายการบินนกแอร์" นายวุฒิภูมิ กล่าว

ด้านนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า สิ่งที่ FAA ออกประกาศเตือนน่าจะเป็นการพูดถึงการใช้งานเครื่องบินโบอิ้ง 737 โดยรวมทั่วโลก ไม่ได้ระบุชี้ชัดว่าสายการบินใดมีปัญหา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• โบอิ้งยอมรับ เครื่องบินรุ่น 737 NG มีรอยร้าวก่อนกำหนด
• กพท. ตั้งเป้าปลายปี '62 ปลด FAA ขยับเป็น Category 1
• นักบินอังกฤษวิตก 'โบอิ้ง 787' เสี่ยงระบบดับเพลิงขัดข้อง
• 'ไทย ไลอ้อน แอร์-กพท.' แจงในไทยใช้ 'โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 9' แค่ 3 ลำ ย้ำตรวจสอบคุณภาพสม่ำเสมอ