ประธานาธิบดีเบลารุสกล่าวสุนทรพจน์ ระหว่างการประชุมสุดยอดกับปูตินในโซชี เมืองตากอากาศริมทะเลดำซึ่งทั้งสองผู้นำได้จัดการประชุมแบบพบหน้ากันเป็นครั้งที่ 7 ในปีนี้ โดยการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ของประธานาธิบดีเบลารุส เกิดขึ้นหลังจากที่ ปูตินและคิมพบกันเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ในสถานีอวกาศวอสตอชนี ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดดังกล่าว ถือเป็นการเดินทางออกนอกเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกของคิมในรอบ 4 ปี
มีการเปิดเผยรายละเอียดการหารือ ระหว่างคิมกับปูตินในการเดินทางเยือนครั้งนั้นเพียงเล็กน้อย แต่มีการกล่าวกันว่า รัสเซียกำลังมองหากระสุนจากเกาหลีเหนือ เพื่อนำไปใช้รบในยูเครน แม้ว่าสหประชาชาติจะประกาศคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ เพื่อสั่งห้ามไม่ให้ประเทศใดๆ ในการทำข้อตกลงด้านอาวุธกับรัฐบาลเกาหลีเหนือก็ตาม
มีรายงานระบุว่า คิมกำลังสนใจเทคโนโลยีทางทหารและการบินและอวกาศของรัสเซีย รวมถึงความช่วยเหลือของรัสเซีย ในการปล่อยดาวเทียมสอดแนมของเกาหลีเหนือ เช่นเดียวกับความช่วยเหลือทางเทคนิค เกี่ยวกับโครงการขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังกำลังแสวงหาอาหาร และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอื่นๆ เนื่องจากเกาหลีเหนือกำลังประสบกับภาวะการขาดแคลนอาหาร ที่เริ่มต้นขึ้นหลังจากระบอบการปกครองอันโดดเดี่ยวตัวเองออกจากประชาคมโลก ประกาศมาตรการปิดพรมแดนควบคุมการระบาดของโควิด-19
อย่างไรก็ดี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ก.ย.) ปูตินดูเหมือนจะปฏิเสธว่ารัสเซียกำลังวางแผน ที่จะละเมิดการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ โดยการทำข้อตกลงด้านอาวุธกับเกาหลีเหนือ
“เกาหลีเป็นเพื่อนบ้านของเรา และเราต้องสร้างความสัมพันธ์เพื่อนบ้านที่ดีกับเพื่อนบ้านของเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง” ปูตินกล่าวระหว่างแถลงข่าว หลังการเจรจากับลูคาเชนโก “ใช่ มีข้อมูลเฉพาะบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับคาบสมุทรเกาหลี เราหารือเรื่องนี้อย่างเปิดเผย เราไม่เคยละเมิดสิ่งใด และในกรณีนี้เราจะไม่ละเมิดสิ่งใดๆ แต่แน่นอนว่า เราจะมองหาโอกาสในการพัฒนาความสัมพันธ์รัสเซีย-เกาหลีเหนือ”
นอกจากนี้ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกประจำสำนักประธานาธิบดีรัสเซีย ยังกล่าวด้วยว่า ไม่มีการลงนามข้อตกลงหรือข้อตกลงด้านอาวุธใดๆ โดยผู้นำทั้งสองในระหว่างการเยือนรัสเซียของผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ
แผนการเดินทางของคิมระหว่างการเยือนพื้นที่รัสเซียตะวันออกไกลอย่างต่อเนื่อง ชี้ให้เห็นว่าความร่วมมือทางทหารของทั้งสองชาติมีอยู่ในวาระการประชุม โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คิมได้เข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตเครื่องบินรบของรัสเซีย ในเมืองคอมโซโมลสค์-ออน-อามูร์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออกเกือบ 6,400 กิโลเมตร และตกอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก
ในการเดินทางเยือนโรงงาน มีการเปิดเผยภาพของคิมที่กำลังรับชมห้องนักบินของเครื่องบินรบ Su-57 อันทันสมัยของรัสเซีย และเขายังได้สังเกตการณ์การบินทดสอบของเครื่องบินไอพ่น Su-35 ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ คิมจะเดินทางอยู่ในรัสเซียครั้งต่อไป เพื่อเข้าชมกองเรือแปซิฟิกของรัสเซีย และเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ รัฐสภายุโรปประกาศการกล่าวหาลูคาเชนโก ว่าสมรู้ร่วมคิดในการก่ออาชญากรรมสงครามของรัสเซียในยูเครน และรัฐสภายุโรปได้เรียกร้องให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ออกหมายจับลูคาเชนโกในฐานความผิดดังกล่าว ทั้งนี้ มติที่ได้รับการรับรองโดยฝ่ายนิติบัญญัติในเมืองสตราสบูร์กเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (13 ก.ย.) ระบุว่า ลูคาเชนโกได้ “เปิดช่อง” ให้เกิดสงครามของรัสเซียในยูเครน และแบกรับ “ความรับผิดชอบโดยตรง” ต่อการตายและการทำลายล้างที่เกิดขึ้นในยูเครน
นอกจากนี้ รัฐสภายุโรปยังกล่าวหาว่า ลูคาเชนโกช่วยเหลือรัสเซียในการบังคับเนรเทศเด็กจากยูเครนไปยังรัสเซีย ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ ICC ได้ออกหมายจับต่อปูติน และ มาเรีย ลโววา-เบโลวา กรรมาธิการเด็กของรัสเซียไปก่อนหน้านี้
ที่มา: