ไม่พบผลการค้นหา
สหรัฐอเมริกาคว้าทอง 39 ชนิดกีฬา แซงหน้าเอาชนะทีมชาติจีน ชาวเน็ตชาตินิยมจีนเคลมเหรียญไต้หวัน หวังแชมป์เจ้าเหรียญทอง

ปิดฉากไปเรียบร้อยสำหรับโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 พร้อมกับพิธีส่งไม้ต่อให้กับประเทศฝรั่งเศสในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกปารีส 2024 ในอีก 3 ปีข้างหน้า นับเป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปีที่ฝรั่งเศสได้เป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขัน จากก่อนหน้านี้ที่ปารีสเคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกเมื่อปี 1924

สำหรับโอลิมปิกโตเกียว 2020 จากตารางสรุปเหรียญอย่างเป็นทางการ พบว่าสหรัฐอเมริกา ครองจำนวนเหรียญรางวัลทั้งหมด 113 เหรียญ แบ่งเป็น ทอง 39 เหรียญ, เงิน 41 เหรียญ และทองแดง 33 เหรียญ

ขณะที่นักกีฬาทีมชาติจีนคว้าเหรียญรางวัลได้ทั้งหมด 88 เหรียญ แบ่งเป็น ทอง 38 เหรียญ, เงิน 32 เหรียญ และ ทองแดง 18 เหรียญ ส่วนญี่ปุ่นประเทศเจ้าภาพรั้งอันดับ 3 ได้ทั้งหมดรวม 58 เหรียญ 

นักกีฬาทีมชาติสหรัฐฯ สามารถคว้าเหรียญทองเพิ่มเติมได้ในการแข่งขันวันสุดท้ายจากกีฬาชนิดบาสเก็ตบอลหญิง และยังสามารถคว้าเหรียญทองเป็นครั้งแรกในวอลเลย์บอลหญิงและการปั่นจักรยานลู่ ขณะที่การแข่งขันในโค้งสุดท้ายนักกีฬาทีมชาติจีนพ่ายการคว้าเหรียญทองในกีฬายิมนาสติกลีลาและการชกมวยรุ่นมิดเดิ้ลเวท

โอลิมปิกโตเกียว จีน เว่ยป๋อ

มีรายงานว่าหลังการแข่งขันเสร็จสิ้น บรรดาผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตชาวจีนได้จัดทำตารางสรุปเหรียญโดยมีการนำเอาสถิติการคว้าเหรียญรางวัลของนักกีฬาทีมชาติไต้หวัน มาอยู่ในตารางสรุปเหรียญที่โซเชียลมีเดียจีนทำขึ้น ซึ่งทีมชาติไต้หวัน สามารถคว้าเหรียญรางวัลให้กับประเทศบ้านเกิดทั้งหมด 12 เหรียญ แบ่งเป็น 2 เหรียญทอง, 4 เหรียญเงิน และ เหรียญทองแดง โดยสองเหรียญทองที่ทีมไต้หวันสามารถคว้ามาได้นั้น สร้างความภูมิใจแก่คนทั้งชาติจากการที่สองนักแบดมินตันคู่ชาย สามารถเข้าชนะสองนักแบดคู่จากทีมชาติจีน

หากนับตามตารางสรุปเหรียญที่ผู้ใช้งานเว่ยป๋อจีนสร้างขึ้นจะส่งผลให้ "จีน" มีเหรียญทั้งหมด 106 เหรียญ แม้จะน้อยกว่าเหรียญรวมของสหรัฐ แต่ทำให้จีนกลายเป็น "เจ้าเหรียญทอง" แซงหน้าสหรัฐฯ ที่ 42 เหรียญ 

"ขอแสดงความยินดีกับคณะผู้แทนจีนสำหรับตำแหน่งที่หนึ่งในเหรียญทองและจำนวนเหรียญทั้งหมด" ตอนหนึ่งที่ผู้ใช้งานเว่ยป๋อระบุ 

อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตชาวจีนจำนวนไม่น้อย ที่แสดงความไม่เห็นด้วยต่อเคลมเหรียญความสำเร็จดังกล่าว พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ผู้จัดทำตารางสรุปว่าไม่เหมาะสมและไม่มีน้ำใจนักกีฬา

ที่มา: TW.News , CNA , Weibo