วันที่ 2 พ.ค. พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ เปิดเผยความรู้สึกหลังได้รับการคัดเลือกให้เป็นกรรมการในคณะที่ปรึกษาด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของรัฐบาล ว่า ขอทำงานอย่างเต็มความสามารถ เพื่อชาติโดยไม่รับผลตอบแทนใดๆ และหากท่านใดมีความเห็นเชิงสร้างสรรค์สามารถนำเสนอเข้ามาได้ ทั้งนี้ตนเข้าใจบทบาทหน้าที่ดีกรรมการ และจะไม่ก้าวล่วงนอกเหนือหน้าที่อย่างเด็ดขาด
"...บทบาทนี้ผมจะบุ๋นนะครับ ...จะไม่ปากสุนัข ใจสัตว์ให้เห็นกันแล้วนะครับ" พล.ต.นพ.เหรียญทอง ระบุตอนหนึ่ง
เนื้อหาทั้งหมดระบุผ่านเฟซบุ๊ก เหรียญทอง แน่นหนา ดังนี้
"ผมขอประกาศตนอย่างชัดเจนว่าจะทำหน้าที่เป็นกรรมการคนหนึ่งในคณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดโควิด-19 อย่างสุดกำลังเต็มความสามารถโดยไม่ขอรับผลตอบแทนใดๆ ผมจะทำงานให้ฟรีตามที่ผมเคยพูดไว้
ผมมีเจตนารมณ์ตั้งใจทำงานเพื่อชาติที่มี ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ที่ผมพูดเสมอๆว่าเป็นผู้นำที่จะนำพาชาติไทยให้ฟันฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปได้ถึงแม้ผมจะไม่ใช่นักวิชาการก็ตาม แต่ผมเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์และเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นแสวงหาแนวทางเพื่อเสนอแนะการขับเคลื่อนเศรษฐิจเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าทอดต่อธุรกิจต่างๆ อย่างต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ให้เกิดการจ้างงานแก่คนในชาติสามารถดำรงชีวิตไปได้ตามอัตภาพในสถานการณ์โควิด-19 ที่จะลากยาวต่อเนื่องอีกหลายปี
ความเห็นส่วนตัวของผม เห็นว่าประเทศไทยจะต้องใช้จุดแข็ง 'ดินแดนปลอดภัยโควิด-19' , ใช้จุดแข็งด้านการแพทย์ 'สุขภาพขับเคลื่อนเศรษฐกิจชาติ' , ใช้วิกฤตเป็นโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อหารายได้เข้าประเทศ , ใช้ทรัพยากรภายในประเทศที่ทิ้งร้างว่างเปล่าไม่เกิดผลผลิต [Productivity] ให้นำมาสร้างรายได้ เกิดการจ้างงาน ซึ่งเป็นแนวทางแก้ไขผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ที่จะช่วยประคับประคองการดำรงชีวิตของคนในชาติไปได้จนกว่าจะมีวัคซีนหรือยาหรือวิธีการอื่นใดที่มีประสิทธิผลในการป้องกันโควิด-19 ได้ซึ่งสถานการณ์นี้อาจต้องใช้เวลานานนับปีที่เราจะปล่อยให้สภาพเศรษฐกิจและสังคมเป็นไปตามยะถากรรมโดยไม่ดิ้นรนหาแนวทางไม่ได้อย่างเด็ดขาด
ผมขอเรียนท่านทั้งหลายว่าเพราะความห่วงใยต่อประเทศชาติ ไม่ต้องการเห็นสภาพล่มสลายทางเศรษฐกิจที่จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคนในชาติ ไม่อยากเห็นสภาพแร้นแค้นจนกระทั่งรัฐไม่มีงบประมาณแผ่นดินเพียงพอที่จะนำมาช่วยรักษาผู้ป่วยและพัฒนาประเทศในด้านอื่นๆ
ผมไม่ได้ดราม่านะครับหากท่านทั้งหลายมีความคิดสร้างสรรค์สามารถส่งความคิดเห็นนั้นมาทางกล่องข้อความถึงผมด้วย ผมจะศึกษาและพยายามนำมาบูรณาการ เป็นหนทางเพื่อนำเสนอคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดโควิด-19 พิจารณาก่อนที่จะนำเสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ ที่มีนายกฯ เป็น ผอ.ศูนย์ ต่อไปครับ...(ผมไม่ได้ทำหน้าที่ใกล้ชิดนายกฯนะครับ ได้โปรดอย่าเข้าใจผิด ระบบงานมีขั้นตอนนะครับ)
ผมอยากเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะส่วนตัวของผมว่า เมื่อผมมีหน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชา[Commander] ผมจะเป็นคน 'บู๊' ดุเดือดอย่างที่สาธารณชนเข้าใจกัน แต่เมื่อผมมีหน้าที่เป็นเสนาธิการ[Staff]ซึ่งเป็นงานฝ่ายอำนวยการ งานที่ปรึกษา ผมก็จะเป็นคน 'บุ๋น' จะไม่ไปก้าวก่าย ก้าวล่วง ไม่ไปดุเดือด
ผมตระหนักในหน้าที่และบทบาทของผมเสมอว่าหน้าที่ใดจะต้องรู้จักวางตนและมีบทบาทอย่างไร ดังนั้นเมื่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีให้ความไว้วางใจให้ผมทำหน้าที่เป็นกรรมการคนหนึ่งในคณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและผลกระทบแล้ว
ผมก็ต้องรู้หน้าที่และบทบาทในการเป็นแค่กรรมการคนหนึ่งในคณะที่ปรึกษาสิครับ หน้าที่ตามคำสั่งนี้ คือ ให้ความเห็นทางวิชาการ เสนอแนะแนวทางต่างๆเพื่อป้องกันและแก้ไขผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์ระบาดโควิด-19 เท่านั้น ...ผมจะไม่ไปก้าวก่าย ก้าวล่วงในหน้าที่ที่ไม่ใช่หน้าที่ของผมอย่างเด็ดขาด...ผมเคยเป็นเสนาธิการ[Staff] มาก่อนที่จะเป็นผู้บังคับบัญชา[Commander] จึงกล้าพูดได้ว่าผ่านมาทั้งบู๊และบุ๋นมาแล้ว...บทบาทนี้ผมจะบุ๋นนะครับ ...จะไม่ปากสุนัข ใจสัตว์ให้เห็นกันแล้วนะครับ...555"