ไม่พบผลการค้นหา
เช้าวันนี้ (25 ธ.ค.) กทม. 15 จุด ค่าฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ด้าน นายกฯ สั่งเข้มดำเนินตามนโยบาย 'ตรวจจับ ปรับจริง–ห้ามใช้รถควันดำ'

ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในกรุงเทพมหานคร รายงานผลการตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง พบว่าเกินค่ามาตรฐานจำนวน 15 พื้นที่​ ได้แก่ เขตหนองแขม สวนทวีวนารมย์ (เขตทวีวัฒนา) เขตทวีวัฒนา เขตภาษีเจริญ เขตยานนาวา เขตคลองสาน เขตคลองเตย เขตพระนคร เขตบางกอกใหญ่ เขตบางขุนเทียน เขตตลิ่งชัน เขตบางบอน เขตสัมพันธวงศ์ เขตบางนา และเขตปทุมวัน

โดยตรวจวัดได้ในช่วง 28-64 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (ค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมงอยู่ที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) คิดเป็นร้อยละ ​21.43 จากจำนวนเขตที่มีสถานีตรวจวัดทั้งหมด คุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับเริ่ม​มีผลกระทบ​ต่อ​สุขภาพ​ 15 พื้นที่


นายกฯ สั่งคุมเข้ม 'ตรวจจับ-ปรับจริง' รถควันดำ

ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินมาตรการควบคุมปริมาณของฝุ่นละออง PM2.5 สืบเนื่องจากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ที่อยู่ในระดับเกินค่ามาตรฐาน และเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ปริมณฑล และเมืองหลัก ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากฤดูหนาวไปเป็นฤดูร้อน(ตุลาคม - มีนาคม ของทุกปี) ทำให้มีสภาวะอากาศนิ่ง ส่งผลกระทบต่อการสะสมของฝุ่นละอองในอากาศ

โดยนายกฯ วางแนวนโยบายและสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความสำคัญกับการดำเนินตามนโยบาย “ตรวจจับ ปรับจริง–ห้ามใช้รถควันดำ” ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ทั้งการเพิ่มจุดตรวจวัดควันดำขาเข้า-ขาออก ตามถนนสายหลักต่าง ๆ การขยายจุดตรวจให้ทั่วทุกจังหวัด เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบ และระงับการใช้รถที่มีควันดำจนกว่าจะมีการนำรถไปปรับปรุงแก้ไข

ในส่วนของรถโดยสารสาธารณะ โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ขอให้มีการตรวจวัดค่าไอเสียของรถ ก่อนนำออกมาวิ่งให้บริการประชาชน ปรับปรุงเครื่องยนต์ของรถให้มีประสิทธิภาพ ให้มีค่าไอเสียที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ตลอดจน การเพิ่มมาตรการอื่น ๆ ให้เข้มข้นเป็นพิเศษในช่วงที่คาดการณ์ว่า ฝุ่นละออง PM2.5 จะสูงเกินมาตรฐาน อาทิ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง กรองน้ำมัน และกรองอากาศ ให้มีรอบที่น้อยลง เช่น จากปกติกำหนดที่ 12,000 กิโลเมตร เหลือ 6,000 กิโลเมตร และการกำหนดอัตราค่าไอเสียให้เข้มข้นกว่ามาตรฐานที่กรมควบคุมมลพิษกำหนด เช่น จากปกติที่กรมควบคุมมลพิษกำหนดอัตราค่าไอเสียอยู่ที่ไม่เกิน 45% ให้กำหนดให้เข้มข้นเป็น ไม่เกิน 30% ทุกคัน

ธนกร กล่าวว่า มาตรการนี้เป็นมาตรการเบื้องต้นเพื่อลดการสะสมของค่าฝุ่นละออง PM2.5 ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้วางนโยบายระยะยาวอย่างยั่งยืน เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ต่อไป นายกรัฐมนตรีห่วงใยสุขภาพของพี่น้องประชาชน เร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 พร้อมฝากถึงประชาชนในช่วงนี้ ให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมในที่แจ้ง และใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น