ไม่พบผลการค้นหา
มิติใหม่ของวงการเพลง K POP กับการจัดคอนเสิร์ตออนไลน์ ประเดิมวงแรก SuperM ที่ค่ายเพลงดัง SM Entertainment (เอสเอ็ม เอ็นเทอร์เทนเม้นท์) และบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ NAVER (เนเวอร์) ร่วมมือกัน เผยสถิติผู้เข้าชมสูงถึง 7.5 หมื่นคนจาก 109 ประเทศทั่วโลก สร้างรายได้กว่า 64 ล้านบาท

สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้การจัดคอนเสิร์ตทั่วโลกต้องหยุดชะงัก เพราะการที่มีคนมารวมตัวกันหมู่มาก จะทำให้เป็นสถานที่ที่แพร่ระบาดเชื้อออกไปวงกว้าง ภาคอุตสาหกรรมดนตรีของวงการเพลง K POP จึงปรับตัว จัดคอนเสิร์ตออนไลน์ ที่รองรับผู้ชมได้ทั่วโลกผ่านแอพพลิเคชัั่น V App ในเกาหลีใต้ ประเดิมศิลปินวงแรก SuperM (ซูเปอร์เอ็ม) ประกอบไปด้วย 7 สมาชิก ได้แก่ ‘TAEMIN’ (แทมิน) วง SHINee (ชายนี่), ‘BAEKHYUN’ (แบคฮยอน) และ ‘KAI’ (ไค) วง EXO (เอ็กซ์โซ), ‘TAEYONG’ (แทยง) และ ‘MARK’ (มาร์ค) วง NCT 127 (เอ็นซีที วันทูเซเว่น) รวมถึง‘LUCAS’ (ลูคัส) และ‘TEN’ (เตนล์) วง WayV (เวย์วี) กับ คอนเสิร์ตด้วย‘Beyond LIVE’ (บียอนด์ ไลฟ์) คอนเสิร์ตทางออนไลน์โดยเฉพาะครั้งแรกของโลก ผลงานจากการร่วมมือระหว่างบริษัทบันเทิงที่ทรงอิทธิพลของเกาหลีใต้ SM Entertainment (เอสเอ็ม เอ็นเทอร์เทนเม้นท์) และบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ NAVER (เนเวอร์)

โดย ‘Beyond LIVE’ ไม่ใช่เพียงแค่การนำคอนเสิร์ตแบบออฟไลน์ที่มีอยู่แล้วมาถ่ายทอดสดแบบออนไลน์เท่านั้น แต่เป็นการนำเสนอคอนเทนต์คอนเสิร์ตดิจิตอลแบบออนไลน์ ที่คุ้มค่าที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน กับวัฒนธรรมการเว้นระยะห่างทางสังคมเช่นนี้

คอนเสิร์ตออนไลน์  super M

สำหรับคอนเสิร์ต ‘SuperM - Beyond the Future’ ในครั้งนี้ ได้ถูกถ่ายทอดสดผ่าน NAVER V LIVE ไปเมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งตลอดระยะเวลาการแสดงกว่า 2 ชั่วโมงก็ประกอบไปด้วยการแสดงอันยอดเยี่ยมของ SuperM รวมถึงมุมกล้องที่คอยตัดภาพเข้าออกแบบถ่ายทอดสดคอนเสิร์ต, มิวสิควีดีโอ, รายการเพลง ฯลฯ  และโปรดักชั่นที่ทำให้มีมุมมองเสมือนว่าผู้ชมทางออนไลน์กำลังสบตากับศิลปินที่ทำการแสดงอยู่ อีกทั้งการใช้เทคโนโลยี AR อย่าง Live Sync Camera Walking ที่เชื่อมมุมการเดินกล้องและพื้นที่จริงเข้าไว้ด้วยกัน, การนำเสนอเวทีที่มีฉากหลังเป็นพื้นที่หลากหลายแบบ ซึ่งเกิดขึ้นจริงได้ด้วยกราฟิกสามมิติแบบเรียลไทม์

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงเพลงใหม่ของ SuperM อย่าง ‘Tiger Inside’ เป็นครั้งแรก ที่มีเสือเสมือนจริงปรากฏตัวออกมาสร้างความน่าทึ่งให้กับผู้ชมด้วย AR และเพลงสุดท้ายอย่าง ‘Jopping’ ที่เวทีมีฉากเป็นโคลอสเซียมขนาดใหญ่ และทะเลแท่งไฟทำให้รู้สึกเหมือนจริงด้วย AR เช่นกัน ไม่เพียงเท่านี้ เอกลักษณ์ของ ‘Beyond LIVE’ ยังมีการสื่อสารโต้ตอบที่ใช้เทคโนโลยีการส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ อาทิ เสียงพูด และเสียงเชียร์ของผู้ชม ฯลฯ  ซึ่งในวันทำการแสดง SuperM ก็ได้พูดคุยแบบเห็นหน้ากันและกันในหลายภาษากับแฟนคลับผู้โชคดีจากเกาหลี, สหรัฐอเมริกา, จีน, ญี่ปุ่น, นิวซีแลนด์, ประเทศไทย เป็นต้น

คอนเสิร์ตออนไลน์  super M

นอกจากนี้ ยังมียอดผู้ชมคอนเสิร์ตแบบชำระค่าบริการครั้งนี้สูงถึง 75,000 คน จาก 109 ประเทศทั่วโลก ซึ่งคิดเป็นจำนวนที่มากกว่าถึง 7.5 เท่า เมื่อเทียบกับคอนเสิร์ตแบบออฟไลน์ต่อ 1 รอบ ที่ปกติแล้วคอนเสิร์ตของวงไอดอลยอดนิยม จะจัดด้วยขนาดเฉลี่ยอยู่ที่ 10,000 คน ต่อ 1 รอบ เรียกได้ว่า ยิ่งทำให้น่าติดตามการเติบโตของธุรกิจคอนเสิร์ตรูปแบบใหม่ได้เป็นอย่างดี

มีรายงานว่า รายได้จากการขายทิคเก็ตออนไลน์อยู่ที่ประมาณ 2 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 64 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าโชว์ของ SuperM ที่จัดขึ้นในแคลิฟอร์เนียเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาที่มีรายได้รวมประมาณ 1 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 32 ล้านบาท

ทั้งนี้ ไลน์อัพของ ‘Beyond LIVE’ จะมีการแสดงของเหล่าศิลปินยอดนิยมที่มีผลงานไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นวงจีน WayV ในวันที่ 3 พ.ค. (vlive.tv/product/ds00u00u00000158?lang=th), NCT DREAM วันที่ 10 พ.ค. , NCT 127 วันที่ 17 พ.ค. ฯลฯ ต่อด้วยกำหนดการแสดงของศิลปินทั้งในประเทศเกาหลี และนอกประเทศอีกมากมาย