'เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ' อธิบดีกรมสรรพากรกล่าวในหัวข้อ Thailand Future Forum 2021 ตอนที่ 2 สู่ภูมิทัศน์ใหม่รัฐไทย โดยเขากล่าวว่า อันดับแรกต้องตั้งโจทย์ให้ชัดว่าทำไมต้องมีรัฐ ถ้าโจทย์ไม่ชัด มองว่าการจะหาว่ารัฐที่ดีเป็นอย่างไร ตอบยากเหมือนกัน
ที่ผ่านมา การมีรัฐ เพราะมีกิจกรรมบางอย่างที่เอกชน อาจจะทำไม่ได้ หรือ ภาครัฐอาจต้องมีกฎกติกาบางอย่างเพื่อทำให้ระบบทำงานได้ดี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือประเทศไทยใหญ่ขึ้นเรื่อย พอใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ก็มีบางอย่างที่ทำโดยไม่จำเป็น
ขณะที่กิจกรรมบางอย่างเอกชนทำได้ กติกาบางอย่าง รัฐทำเพื่อให้เอกชนทำงานได้ รัฐกลับไปทำให้เอกชนทำงานยาก เพราะฉะนั้น จุดประสงค์หลักๆ รัฐจะต้องเล็ก ทำเฉพาะในสิ่งที่ควรทำและให้เอกชนเข้ามาทำแทนในเรื่องอื่น
"ถ้ารัฐมาทำเอง กลไกตลาดจะเปลี่ยน เพราะรัฐไม่มีคู่แข่ง เอกชนเมื่อมีคู่แข่ง จะทำให้เกิดการแข่งขันที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ความเห็นส่วนตัว รัฐควรเป็นผู้อำนวยความสะดวกและทำในสิ่งที่เอกชนทำไม่ได้"
ในความเป็นจริง รัฐปรับตัวไม่ทันและช้า เมื่อจะทำอะไรก็จะติดกับดัก ยิ่งตอนนี้ โจทย์หนี้สาธารณะสูง และ งบประมาณก็จำกัด รัฐเองทำอะไรมากไม่ได้ จำนวนบุคลากรก็มาก งบประมาณก็ต้องใช้มากตามไปด้วย องค์กรต่างๆก็เพิ่มเรื่อยๆ แต่หน่วยราชการที่หายไปแทบไม่เคยเห็น ฉะนั้น รัฐก็จะใหญ่ขึ้น ปัญหาก็จะวนอยู่ในอ่าง
นอกจากนี้ การหาคนทำงานที่มีประสิทธิยากกลับมาน้อย เพราะเงินเดือนไม่จูงใจ ระบบจะเอื้อให้คนทำงานก็ไม่ดี กลายเป็นว่า เวลาจะถูกจัดสรรงบประมาณ ก็จะถูกจัดสรรด้วยงบที่จำกัด เวลาตนปรับขึ้นเงินเดือนให้ลูกน้อง บางคนได้หลักร้อยบาทเท่านั้น เพราะรัฐใหญ่และจัดตามโครงสร้าง ถ้ากองไหนมีคนอายุมาก ฐานเงินเดือนสูง ก็จะได้เงินเดือนมากหน่อย เป็นโลกของระบบที่ไม่มีประสิทธิภาพ
แนวทางที่ควรทำคือทำในสิ่งที่เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เปิดให้การทำงานเป็นไปอย่างโปร่งใส และ มีประสิทธิภาพ โดยต้องเปลี่ยนแรงจูงใจให้มีคนกล้าทำงานและตัดสินใจในการปกป้องข้าราชการที่กล้าตัดสินใจบนข้อมูลที่มีอยู่
นอกจากนี้ ตนคิดว่าควรต้องร่วมมือกับเอกชน ภาครัฐจะทำโครงการดิจิทัลอะไรต้องใช้เวลานาน เมื่อถึงเวลาจัดซื้อจัดจ้าง เทคโนโลยีในขณะนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ทำให้ข้าราชการไม่กล้าตรวจรับ เพราะผิดทีโออาร์ กฎหมายก็จะมีโทษอาญาอีก ฉะนั้น กรรมการตรวจรับจะหายากมากในระบบราชการ ฉะนั้น ข้าราชการจึงเคลื่อนช้ามาก เมื่อเราไม่มีระบบจัดการเรื่องเหล่านี้ คิดว่า ระบบราชการจะยิ่งไม่มีประสิทธิภาพ