โกตาบายา ราชปักษา อดีตประธานาธิบดีศรีลังกา ผู้นำที่ถูกประชาชนลงถนนประท้วงขับไล่เป็นเวลาหลายเดือนได้เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้วด้วยเครื่องบินส่วนตัวซึ่งลงจอดที่สนามบินดอนเมือง หลังจากที่ลี้ภัยออกนอกประเทศไปยังมัลดีฟส์เมื่อช่วงกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา

ราชปักษาเดินทางจากมัลดีฟส์ต่อไปยังสิงคโปร์ในวันที่ 14 ก.ค.ก่อนที่จะยอมยื่นใบลาออกผ่านทางอีเมล์ในเวลาต่อมา ทำให้เขากลายเป็นผู้นำคนแรกในประวัติศาสตร์ศรีลังกาที่ต้องลาออก 'กลางเทอม' 

ก่อนหน้านี้ราชปักษาได้ขอขยายเวลาเพื่อพำนักในสิงคโปร์เพิ่มได้ 14 วัน แต่ช่วงเวลาดังกล่าวหมดลงในวันที่ 11 ส.ค.และไม่ได้รับอนุญาตให้ขยายเวลาได้อีกครั้ง ขณะที่ทางรัฐบาลสิงคโปร์เองก็ยืนยันว่าไม่เคยมอบ 'สิทธิพิเศษ' 'การดูแลระหว่างพำนัก' หรือ 'ให้ความคุ้มกัน' ใดๆ กับเขาตลอดการใช้ชีวิตในสิงคโปร์

ก่อนหน้านี้ในวันที่ 10 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าอดีต ปธน.ศรีลังกา เตรียมเดินทางมาพำนักในประเทศไทยชั่วคราวระหว่างหาประเทศลี้ภัย พร้อมชี้ว่า "เป็นเรื่องมนุษยธรรม และเป็นเรื่องที่มีการสัญญาว่าอยู่ชั่วคราว จะไม่มียุ่งเกี่ยว เยียมเยียนหรือพบปะทั้งสิ้น เพื่อเตรียมหาประเทศลี้ภัย อันนี้เราก็จำเป็นนะ ส่วนในประเทศไทยก็อย่ายุ่งมากเท่าประเทศเขา วันนี้ก็ยุ่งพออยู่แล้ว"

ขณะที่ ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีนี้ในวันเดียวกันว่า โกตาบายาถือหนังสือเดินทางทางการทูตฯ ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลศรีลังกาที่เป็นมิตรกับไทย ก็สามารถมาพำนักในประเทศได้ไม่เกิน 90 วัน ดังนั้นในฐานะกระทรวงการต่างประเทศ จึงมองว่าเรื่องนี้ไม่เป็นปัญหา และยังไม่มีการคัดค้านจากรัฐบาลศรีลังกา

"โดยทั่วไปแล้วเป็นเรื่องปกติที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น ในยามยาก เราก็พิจารณาหลายอย่างประกอบกันแต่ข้อสำคัญคือมาแล้วไม่เป็นปัญหาต่อประเทศไทย และอยู่ในประเทศได้มากสุด ขณะนี้ไม่เกิน 90 วัน"