ทั้งนี้เอกสารดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลัง เพจเฟซบุ๊ก SCI LA เผยแพร่ภาพ พล.อ.อภิรัชต์ และเที่ยวบินไปยัง ‘เกาะลังกาวี’ เมื่อ 5 พ.ค. 2566 กลับออกมา 7 พ.ค. 2566 และเที่ยวบินดังกล่าวมี พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด ร่วมเดินไปด้วย
แต่ก็ยังไม่มี ‘หลักฐานเพิ่มเติม’ เผยแพร่ออกมา ว่ามีใครบินไปพบใครหรือไม่ และ พล.อ.อภิรัชต์ บินไปภารกิจใด เพราะอยู่ใน ‘สถานะ’ ที่ไม่สามารถออกมาชี้แจงด้วยตนเองอย่างเป็นทางการ อีกทั้งเที่ยวบินดังกล่าว เกิดขึ้นก่อนเลือกตั้ง 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้นทุกอย่างยังคงเป็น ‘ปริศนา’ ต่อไป
ย้อนกลับไปยุคที่ พล.อ.อภิรัชต์ เป็น ‘นายทหาร’ ใน ทบ. ตกอยู่ใน ‘แบล็คลิสต์’ ของคนเสื้อแดง ตั้งแต่เหตุการณ์ชุมนุมช่วงปี 2552 ผ่านปฏิบัติการยึดคืนสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมไทยคม จ.ปทุมธานี สมัยเป็น ผู้การ ร.11 รอ.
ต่อมาในยุค ‘รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ พล.อ.อภิรัชต์ ถูกโยกไปประจำเป็น ผบ.พล.ร.11 ฉะเชิงเทรา และ ผบ.มทบ.15 เพชรบุรี
ก่อนเหตุการณ์รัฐประหาร 2557 เพียง 1 เดือน ในโผโยกย้าย เม.ย. 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะเป็น ผบ.ทบ. ได้โยก พล.อ.อภิรัชต์ ขึ้นเป็น ผบ.พล.1 รอ. ซึ่งเป็นหน่วยกำลังรบที่คุมพื้นที่กรุงเทพฯ สะท้อนถึง ‘ความไว้ใจ’ แม้จะเติบโตมาต่างสายกัน
ต่อมา พล.อ.อภิรัชต์ ขึ้นเป็น รองแม่ทัพภาคที่ 1 , แม่ทัพน้อยที่ 1 เข้าสู่เส้นทางเหล็ก แม่ทัพภาคที่ 1 , ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ดังนั้นสายสัมพันธ์ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กับ พล.อ.อภิรัชต์ จึงมีความแนบแน่น
ตลอด 2 ปี ในตำแหน่ง ผบ.ทบ. ของ พล.อ.อภิรัชต์ เรียกว่า ‘ออกตัวแรง’ ปกป้อง ‘รัฐบาลประยุทธ์’ หนึ่งในนั้นคือการจัดเวทีทอล์ก ‘แผ่นดินของเรา ในมุมมองความมั่นคง’ ที่ บก.ทบ.ราชดำเนิน ในการโจมตี ‘ขั้วตรงข้ามรัฐบาล’ โดยเฉพาะ ‘ขั้วอนาคตใหม่’ ซึ่งเป็นเหตุการณ์หลังจากที่ พล.อ.อภิรัชต์ ได้พูดคุย ว.5 ‘วงลับ’ กับ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ และ ‘ปิยบุตร แสงกนกกุล’ ช่วง ก.ย.2562 โดยมี พล.ท.พงศกร รอดชมภู ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในขณะนั้น ทำหน้าที่ประสานนัดพบใน ‘เซฟเฮ้าส์’ แห่งหนึ่ง ที่ในเบื้องต้นมีการพูดคุยกัน 3 เรื่อง ได้แก่ การปฏิรูปกองทัพ , การยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร , การแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ต่อมา พล.อ.อภิรัชต์ ได้จัดเวทีแผ่นดินของเราฯ ต.ค.2562 ที่ว่ากันว่ามี ‘สัญญาสุภาพบุรุษ’ ที่ต่างคนต่างไม่ออกมาเปิดเผย จนสุดท้ายข่าวก็ปิดไม่มิด หลุดออกมาช่วง มี.ค.2563 โดยสรุปคือการพูดคุยล้มเหลว อันนำมาสู่การเปิดเวทีทอล์กนั่นเอง
ภายหลังเกษียณฯ จาก ผบ.ทบ. ทำให้ พล.อ.อภิรัชต์ ต้องเว้นวรรคการเมือง 2 ปี หลังพ้นตำแหน่ง ‘สมาชิก สว.’ แต่ก็เป็นที่รู้กันว่า พล.อ.อภิรัชต์ ยังคงเป็น ‘กองหนุน’ ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ หนึ่งในนั้นคือการแนะนำ ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ สำหรับ พล.อ.อภิรัชต์ กับ ‘พีระพันธุ์’ รู้จักกันมายาวนาน ตั้งแต่สมัยเรียน ร.ร.เซนต์คาเบรียล โดย ‘พีระพันธุ์’ อายุมากว่า พล.อ.อภิรัชต์ เพียง 1 ปี
หากย้อนไปถึงปี 2560 พล.อ.อภิรัชต์ ขณะเป็น ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ได้ปรากฏภาพถ่ายที่มี พล.อ.ประยุทธ์ , พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ขณะเป็นรองนายกฯ ที่ถ่ายรูปร่วมกับ ‘ตระกูลสะสมทรัพย์’ ที่สนามกอล์ฟ จ.นครปฐม ท่ามกลางกระแสข่าวในขณะนั้นว่า พล.อ.ประยุทธ์ กำลังเดินสายพบ ‘นักการเมือง’ เพื่อปูทางสู่การ ‘ลงเลือกตั้ง’ เป็นนายกฯ สมัยที่ 2 นั่นเอง
นอกจากนี้ พล.อ.อภิรัชต์ ยังรู้จักคนในหลายวงการ หนึ่งในบุคคลที่คุ้นเคยกัน คือ ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ที่คบหาเป็น ‘เพื่อนกัน’ มายาวนาน 30 ปี ในวันที่ พล.อ.อภิรัชต์ จัดเวทีทอล์กแผ่นดินของเราฯ ก็ได้เชิญ ‘ชูวิทย์’ มาฟังด้วย
ขณะเดียวกัน ‘ชูวิทย์’ ก็ออกมาทำนายว่า การโหวตนายกฯ จะจบช่วงปลาย ส.ค. 2566 จะโหวตนายกฯ อีก 2 ครั้ง และจบที่ชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
แต่เป็นที่รู้กันใน ‘วงการทหาร’ ว่า ระหว่างสาย พล.อ.อภิรัชต์ กับ สายป่ารอยต่อ นั้น เรียกว่า ‘คนละขั้วกัน’
ในช่วงที่ พล.อ.ประวิตร เป็น รมว.กลาโหม ยุค ‘รัฐบาลประยุทธ์ 1’ มีคนเชื่อมสัมพันธ์ คือ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกลาโหม ในขณะนั้น ที่เป็นสายตรง พล.อ.ประวิตร และเป็นเพื่อน ตท.20 กับ พล.อ.อภิรัชต์ นั่นเอง ดังนั้นการออกมาของ ‘ชูวิทย์’ จึงมีความซับซ้อนอย่างยิ่ง
ในขณะนี้ครบ 2 ปี ช่วงเว้นวรรคการเมือง ของ พล.อ.อภิรัชต์ ไปแล้ว และด้วยสถานะของ พล.อ.อภิรัชต์ จึงยากจะกลับมาลงสู่ ‘สนามการเมือง’
แต่ชื่อ พล.อ.อภิรัชต์ ก็ยังไม่ถูก ‘เว้นวรรคการเมือง’ ไปด้วย เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน ยังคงมีการยกชื่อ พล.อ.อภิรัชต์ จะมาเป็น ‘นายกฯ คนนอก’
แต่สุดท้ายยังคงเป็นเพียง ‘กระแสข่าว’ เท่านั้น ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประกาศ ‘วางมือการเมือง’ ไปแล้ว
และหากเป็น ‘รัฐบาลเพื่อไทย’ ก็ยากที่ พล.อ.อภิรัชต์ จะมาร่วมงาน เพราะต่างมี ‘บาดแผล’ ในอดีตร่วมกันมา