วันนี้ (6 ต.ค.) พรรคร่วมฝ่ายค้าน ออกแถลงการณ์กรณีการร้องทุกข์เอาผิดแก่เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4 ที่กองปราบปราม ความว่า
จากการที่พรรคร่วมฝ่ายค้านได้จัดให้มีการเสวนาระดมความเห็นจากประชาชนโดยใช้ชื่องานว่า "พลวัตแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่" เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2562 ณ ลานวัฒนธรรม จังหวัดปัตตานี โดยมีหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค นักวิชาการและเครือข่ายภาคประชาชนเข้าร่วมด้วยนั้น
ต่อมา กอ.รมน.กองทัพภาค 4 ได้มอบหมายให้สำนักงานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษหัวหน้าพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรคการเมือง นักวิชาการและเครือข่ายภาคประชาชน รวมทั้งพิธีกรในรายการ รวมทั้งสิ้น 12 คน โดยกล่าวหาว่ามีการพูด และแสดงความเห็นโดยบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้ประชาชนหลงเชื่อถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือกระทำการล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน โดยให้ดำเนินการแก่บุคคลทั้ง 12 คนในความผิดต่อความมั่นคง ข้อหายุยงปลุกปั่นตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116
พวกข้าพเจ้าเห็นว่า การจัดกิจกรรมดำเนินการเสวนาดังกล่าว เป็นการกระทำในฐานะพรรคการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเครือข่ายภาคประชาชนร่วมกัน สาระและวัตถุประสงค์สำคัญคือ การรณรงค์เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคการเมืองที่มาร่วมกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งแม้แต่รัฐบาลก็มีนโยบายนี้โดยบรรจุไว้เป็นนโยบายเร่งด่วน มีการอภิปรายพูดถึงการแก้ปัญหาของรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความมั่นคง และปัญหาอื่นๆ ที่ผ่านมาว่าล้มเหลว ปัญหาในอดีตยังสะสมวนเวียนอยู่ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
การกระทำของพวกข้าพเจ้า จึงเป็นการกระทำอันอยู่ในความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ รับฟังความเห็นการแสดงออกต่างๆ อันเป็นปกติธรรมดาของวงเสวนาทั่วไป หากจะมีการติชมใดๆ บ้างก็เป็นวิสัยปกติธรรมดาที่พึงกระทำได้ มิได้มีการบิดเบือน เสริมแต่งข้อเท็จจริงใดๆ มิได้มีการกระทำใดๆ อันมีเจตนาที่จะทำให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร อันเป็นองค์ประกอบสำคัญตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116
วันนี้พวกเราทั้งหลาย จึงขอใช้สิทธิในฐานะผู้เสียหายซึ่งได้รับจากการร้องทุกข์กล่าวโทษพวกข้าพเจ้าดังกล่าว ร้องทุกข์กล่าวโทษเอากับ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และพล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการสำนักงานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า โดยขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแก่บุคคลทั้งสอง ผู้บังคับบัญชาและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ในข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานอันอาจทำให้ประชาชนหรือผู้อื่นเสียหาย แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาอันอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา เพื่อให้บุคคลได้รับโทษหรือได้รับโทษหนักขึ้นทางอาญา ใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่จะทำให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง ทั้งนี้โดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 172, 174, 326 และมาตรา 328
ฝ่ายค้านยันไม่แตะหมวด 1 จัดเวทีเสวนาตามกรอบ รธน.
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. แกนนำ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านฯ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พล.ท.พงศกร รอดชมพู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย และนายสมพงษ์ สระกวี อดีตสมาชิกวุฒิสภา เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.รมน. ภาค 4 พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานแจ้งความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา ทำให้ได้รับความเสียหาย กรณีจัดเวทีเสวนาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อพนักงานสอบสวนที่ กองบังคับการปราบปราม
โดยนายสมพงษ์ ยืนยันว่า เจตนาในการเดินสายรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญของ7พรรคฝ่ายค้าน ไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างความขัดแย้งหรือปลุกปั่นประชาชนอย่างที่ถูกแจ้งความเอาผิด ย้ำว่า7พรรคฝ่ายค้าน ไม่เคยคิดที่จะแก้ไขและธรรมนูญมาตราหนึ่งในมาตรา1 เลย แต่ส่วนหนึ่งที่นักวิชาการหยิบขึ้นมาเสวนาในเวทีเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมานั้น เป็นการพูดเสนอในภาพรวม และยืนยันว่าพรรคฝ่ายค้านไม่คิดที่จะแตะต้องในหมวด1และหมวด2
ขณะที่นายวันมูหะมัดนอร์ ยืนยันว่า การจัดเสวนาที่จังหวัดปัตตานี ฝ่ายค้านทำภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญและกฏหมายทุกประการ ไม่ได้กระทำการล่วงละเมิดหรือธรรมนูญเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพื่อจะรับฟังความคิดเห็นประชาชนและนำไปแก้ไขเพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญคือนโยบายของ7พรรคฝ่ายค้านและของรัฐบาลเ้วยเพราะรัฐบาลได้ระบุในนโยบายข้อที่12 พร้อมระบุว่าหลังจากแจ้งความเอาผิดในวันนี้แล้วจะเดินหน้าเอาผิดทั้งผู้ ที่เป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงคือนายกรัฐมนตรี เพราะถือว่าพลเอกประยุทธ์เป็นบุคคลที่ควบคุมกอ.รมน.โดยตำแหน่ง และเห็นว่ากอ.รมน. ไม่ มีสิทธิ์ที่จะมาปิดปากนักการเมืองให้แสดงความคิดเห็นเพราะประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพที่จะแสดงความคิดเห็นได้ ที่อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายและรัฐธรรมนูญ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง