วันที่ 21 มี.ค. ที่อาคารรัฐสภา สุภิญญา กลางณรงค์ ประธานคณะอนุกรรมการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ สภาผู้บริโภค ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมี ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคมฯ เป็นผู้รับหนังสือ

โดย สุภิญญา เรียกร้องให้ กมธ. ตรวจสอบการละเลยการทำหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรณี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) กับ บริษัท โทเทิล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค และบริษัทแอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด เข้าซื้อหุ้นบริษัท ทริปเปิลที บอร์ดแบรนด์ จำกัด (มหาชน) เกินกว่า 90 วัน แต่ กสทช. ยังไม่มีการดำเนินการ ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ อีกทั้ง กสทช. ยังไม่กำกับดูแลให้ลดราคาค่าบริการมือถือและอินเตอร์เน็ตบ้านตามเงื่อนไข 

สุภิญญา เสนอแนะให้คณะกรรมาธิการตรวจสอบการทำงานของ กสทช. พิจารณาทบทวนและยกเลิกการควบรวมธุรกิจของกิจการโทรคมนาคมที่ดำเนินการแล้วทั้งหมด ให้พิจารณาจัดทำมติเรื่องการลดราคาค่าบริการพื้นฐานลง 12% ตามมาตรการที่กำหนด โดยให้ลดค่าอินเตอร์เน็ตลงจาก 0.16 บาท เป็น 0.14 บาทต่อเมกะไบต์ หรือค่าโทรศัพท์จาก 0.60 บาท เป็น 0.52 บาทต่อนาที เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของประชาชน 

นอกจากนี้ ขอให้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กำหนดนโยบายการเปิดเสรีกิจการโทรคมนาคม เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค และให้มีผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่มขึ้น ส่งเสริมการยกระดับการแข่งขันของบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติหรือ NT เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค 

ด้าน ธีรรัตน์ ยอมรับว่าโครงสร้างของ กสทช. มีปัญหา ซึ่ง กมธ. นำปัญหานี้ขึ้นมาพูดคุยและคิดว่าต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว ทีผ่านมามีการพูดคุยกันในหลายเวที เพื่อมุ่งหาทางออก รวมถึงต้องดูที่ต้นตอของปัญหาซึ่งทุกคนทราบกันอยู่แล้วว่าปัญหาอยู่ที่โครงสร้างของ กสทช. ไม่ว่าจะเป็นระบบดูแลอำนาจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และผู้ที่เกี่ยวข้อง ถึงเวลาแล้วที่ทุกส่วนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ ภาคประชาชน ซึ่งขณะนี้ก็ออกมาเรียกร้องถึงปัญหาของผู้บริโภคที่ถูกกระทำอยู่ ซึ่งฝ่ายบริหารที่นำโดยรัฐบาล และข้าราชการก็มีหน้าที่ที่ต้องให้ความร่วมมือและรับฟังปัญหาของประชาชนอย่างจริงจัง ไม่เพียงแค่รับไว้ แต่ต้องเกิดการแก้ปัญหาตามมา 

ธีรรัตน์ เผยว่า ขณะนี้ กมธ. ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงถึงการบริหาร ซึ่งการบริหารงานนั้นจะไม่สำเร็จได้หากไม่ได้รับความจริงใจจากทุกภาคส่วน ดังนั้น คิดว่าจะนำรายงานฉบับนี้ไปศึกษาเพื่อให้ได้ข้อสรุป และดูว่าปัญหาที่ประสบอยู่ขณะนี้ คือเรื่องใดซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขกฎหมาย โดยถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาลร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเพื่อให้ได้สิทธิในการดูแล และรับบริการ และเพื่อให้ได้รับความยุติธรรมและประโยชน์สูงสุดกับประชาชน แม้จะไม่สำเร็จในวันนี้แต่เชื่อว่าในระยะเวลาอันใกล้ จะได้รับความพึงพอใจ