นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีตที่ปรึกษา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่อาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยเฉพาะกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ที่เพียงระยะเวลาไม่ถึงเดือนกลับมาสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจและคนไทยเป็นจำนวนมาก ผู้เสียหายหลายร้อยคนถูกหลอกลวงเสียเงินตั้งแต่หลักแสนถึงหลักหลายล้าน โดยที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาหรือตามเงินกลับมาได้ ปล่อยให้ประชาชนต้องหาแนวทางในการตามเงินของตนเองโดยลำพัง

นายสงคราม กล่าวว่า แม้ล่าสุดรัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยมีนายกฯ นั่งเป็นประธาน หวังเป็นกลไกสำคัญในการบูรณาการการทำงานของทุกหน่วยงาน ทั้งตำรวจ หน่วยข่าวความมั่นคง กระทรวงดิจิทัลฯ กระทรวงยุติธรรม และธนาคารแห่งประเทศไทย อ้างเพื่อแสดงถึงความจริงจังของรัฐบาลในการจัดการอาชญากรรมออนไลน์ อยากถามว่าคิดช้าไปหรือไม่ เพราะหลังแถลงนโยบายในสภาจนถึงวันนี้ความเสียหายเพิ่มขึ้นรายวันแต่รัฐเพิ่งมาขยับ ทั้งๆที่รู้ว่าปัญหาเหล่านี้สร้างผลกระทบเศรษฐกิจไทยมหาศาล

“การปราบอาชญากรรมไซเบอร์เป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญมาก 2 ปีที่ผ่านมาสามารถลดการสูญเสียเงินและปกป้องทรัพย์สินของประชาชนได้หลายหมื่นล้านบาทต่อปี ในขณะเดียวกันสามาถติดตามเงินและทรัพย์สินคืนได้จากการหลอกลวงทางออนไลน์ได้ รวมทั้งรัฐบาลที่ผ่านมาออกกฎหมายเพื่อให้คืนเงินให้กับผู้เสียหายเร็วขึ้น การปฏิบัติงานที่มีแผนงานชัดเจน หากนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ลดอีโก้ลง ไม่หนีปัญหาเหมือนที่ผ่านมา รวมทั้งควรไปศึกษาแนวทางที่นายประเสริฐ จันทรวงทอง อดีตรมว.ดีอี เคยวางแนวทางไว้ นำมาปรับใช้มั่นใจว่าจะเกิดประโยชน์กับประชาชนมากกว่าการวิ่งหนีปัญหา เหมือนที่ผ่านมาอย่างแน่นอน” นายสงคราม กล่าว