นายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบหมายจากศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติครั้งที่ 1/2562 เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบมาตรการป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ ปี 2562 มุ่งลดการป่วย การเสียชีวิต และผลกระทบจากการระบาด ด้วย 3 มาตรการสำคัญ คือ การสื่อสารความเสี่ยงเพื่อการป้องกันตนเอง การให้วัคซีนแก่กลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง และการเฝ้าระวังสอบสวนโรค
โดยมอบกระทรวงสาธารณสุข เร่งรัดการจัดหาวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงอย่างทั่วถึง เตรียมเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ บุคลากรพร้อมให้การดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วย ระบบการเฝ้าระวัง สอบสวน ควบคุมโรค การชันสูตรทางห้องปฏิบัติการ สื่อสารความเสี่ยง และส่งเสริมพฤติกรรมป้องกันโรค ประสานงานหน่วยงาน ภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อความร่วมมือป้องกันโรค ให้องค์การเภสัชกรรมผลิตและจัดหายาต้านไวรัสให้เพียงพอในการรักษาผู้ป่วย และมอบกรมประชาสัมพันธ์ เร่งรัดการสื่อสารความเสี่ยงแก่ประชาชนทั่วประเทศ เน้นพฤติกรรมการป้องกันตนเองจากโรคไข้หวัดใหญ่
นายแพทย์ธวัช กล่าวต่อว่า ปีนี้ได้เตรียมวัคซีน 4 ล้านโด๊สสำหรับกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์มากกว่า 4 เดือน 2.เด็ก อายุ 6 เดือน - 2 ปี 3.ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคคือ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ไตวาย เบาหวาน และผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด 4.ผู้สูงอายุ มากกว่า 65 ปี
5.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 6.โรคธาลัสซีเมีย และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) 7.โรคอ้วน น้ำหนักตัวมากกว่า 100 กก./ BMI มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตรม. สำหรับบุคลากรกลุ่มเสี่ยง 4 แสนโด๊ส ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สอบสวนควบคุมโรค เจ้าหน้าที่ทำลายสัตว์ปีก เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ นักศึกษาทางการแพทย์และสาธารณสุข
ทั้งนี้ จากการพยากรณ์จำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในปี 2562 มีแนวโน้มสูงกว่าปีที่ผ่านมา และสูงกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปีย้อนหลังมาก โดยสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง การเดินทาง และการรวมตัวของกลุ่มคนหนาแน่น เช่น เรือนจำ โรงเรียน ค่ายทหาร ทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดได้ง่าย การเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์ไวรัสจะเสริมการระบาด กลุ่มเสี่ยงที่ได้รับวัคซีนแล้วยังอาจป่วยได้ โดยข้อมูลของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในช่วงเดือน ม.ค. และ ก.พ. 2562 พบไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B มากขึ้น