สุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวถึง ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ของฝ่ายค้าน ว่า เมื่อวานนี้ (1 ธ.ค.) รัฐสภา รับหลักการ พ.ร.บ.ประชามติของรัฐบาลแล้ว ส่วนของฝ่ายค้านต้องรอดูไปอีกระยะหนึ่ง แต่มองว่ากฎหมายเช่นนี้จะต้องมีคนชี้ชัดว่าเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับการปฏิรูปหรือไม่ และควรนำเข้าสภาใด เรื่องให้ฝ่ายค้านถอนตนไม่ติดใจ แต่อยากให้เป็นกรณีที่อยากจะให้เป็นกรณีที่ให้หน่วยงานหรือองค์กรมาชี้แจงถ้าได้ข้อสรุปชัดเจนหากให้ถอนก็ถอนได้ ทั้งนี้เห็นควรว่าอยากให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะเป็นหลักการและต้องชี้ว่าในอนาคตยังต้องทำอีกเยอะและเกรงว่าในอนาคตรัฐบาลจะเสนอกฎหมายปฏิรูปประเทศเข้ามาแบบมั่วๆ อีกหลายฉบับ

ส่วนหากยื่นศาลจะมีผลกระทบกับร่าง พ.ร.บ.ประชามติของรัฐบาลหรือไม่นั้น มองว่าไม่เกี่ยวเพราะร่างของรัฐบาลเดินหน้าไปแล้ว ฝ่ายค้านจะยื่นเฉพาะร่างที่ยื่นต่อสภาผู้แทนว่ามาถูกทางหรือไม่ หากศาลชี้ว่าร่างนี้ผิด ก็ยึดร่างของรัฐบาล เดินต่อไปได้ แต่ถ้าศาลชี้ว่าเข้ามาถูกแล้ว จะไม่แน่ใจว่าจะเดินต่ออย่างไร ทั้งนี้ไม่ว่าจะยื่นร่างของใครก็ได้ข้อสรุปอยู่ดี แต่ทั้งนี้ฝ่ายค้านอยากได้ พ.ร.บ.ประชามติที่รวดเร็ว แต่เร็วก็ต้องถูกต้องด้วย

พร้อมกันนี้ สุทิน กล่าวถึงกรรมการสมานฉันท์ ว่าขณะนี้ได้รับแล้วและส่งมาในนามของประธานวิปฝ่ายค้าน หลังจากนี้จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันศุกร์นี้ ส่วนจะร่วมเป็นกรรมการด้วยหรือไม่นั้นต้องดูในที่ประชุมอีกครั้ง และต้องดูท่าทีของผู้ชุมนุม และฝ่ายอื่นด้วยว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ ผู้ทุกฝ่ายร่สมด้วย ฝ่ายค้านก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าผู้ชุมนุมไม่ร่วมต้องให้ที่ประชุมพิจารณาอีกครั้ง

ส่วนกรณีที่ สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐจะเปิดกรรมาธิการ (กมธ.) กฎหมายให้หลายฝ่ายมาร่วมหาทางออก ตรงนี้ฝ่ายค้านเห็นด้วย และเป็นสิ่งที่ควรทำมากกว่าการตั้งกรรมการสมานฉันท์ แต่เรื่องนี้ยังไม่แน่ชัดว่าถ้าเปิดได้จริง ถ้าหากเปิดได้ก็เกรงว่ารัฐบาลจะไม่เข้าร่วมมากกว่า ถ้าหากรัฐบาลมาร่วมก็ค่อยมาพูดเรื่องกรอบเนื้อหากันอักครั้ง

นอกจากนี้ สุทิน กล่าวถึงการชุมนุมกันที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าวในขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีอาศัยในบ้านพักหลวง ว่า กังวลในหลายเรื่อง คือ 1.ผลการตัดสินมีผลต่อการยกหรือลดระดับการชุมนุมพอสมควร 2.ห่วงมาตราฐานของศาล และการยอมรับต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมามีการไม่ยอมรับในกระบวนการยุติธรรม ฉะนั้นการตัดสินวันนี้จะส่งผลในทางที่ดีขึ้นและแย่ลง 

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จะพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ไม่ใช่ประเด็น เพราะแม้ไม่มีเรื่องศาล ผู้ชุมนุมก็เสนอให้ลาออกอยู่แล้ว และถ้ามีเรื่องนี้ด้วยก็มีน้ำหนักให้ลาออกเพิ่มอีก แม้จะรอดไม่หลุดตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเรื่องของการให้ลาออกก็ยังเป็นข้อเรียกร้องอยู่เหมือนเดิม