วันที่ 26 ก.ค. ที่อาคารรัฐสภา เชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ สส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ ให้ความเห็นถึงการเตรียมแก้บันทึกความเข้าใจร่วมกัน หรือ MOU ของ 8 พรรคร่วมภายหลังพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลว่า จากเดิม MOU มีทั้งสิ้น 23 ข้อ ซึ่งล้วนเป็นนโยบายของพรรคก้าวไกลทั้งหมด ซึ่งหลังจากที่พรรคก้าวไกลส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล MOU เดิม จึงใช้ไม่ได้ ต้องให้พรรคเพื่อไทยจะทำ MOU ใหม่ โดยให้เป็นการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะเชิญพรรคการเมืองใดเข้าร่วม หรือยึดตาม 8 พรรคเดิมก็ได้ เพื่อให้ครบ 375 เสียง 

เมื่อถามว่าการที่ฉีก MOU เดิม จะกระทบต่อความสัมพันธ์ของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ เชาวฤทธิ์ กล่าวว่า อยู่ที่พรรคเพื่อไทยว่าจะยึดเอาร่างเดิมมาทำการแก้ไข ปรับเปลี่ยนหรือไม่ โดยส่วนตัว เห็นว่าพรรคเพื่อไทยควรจัดทำ MOU ฉบับใหม่ โดยในที่ประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาล ตนจะหยิบเรื่องการจัดทำ MOU ฉบับใหม่ขึ้นมาหารือ

เมื่อถามว่า 312 เสียง ไม่เพียงพอต่อการสนับสนุนนายกรัฐมนตรี มองว่าควรดึงพรรคการเมืองใดเพิ่มมาเป็นพรรคที่ 9 หรือ พรรคที่ 10 หรือไม่ เชาวฤทธิ์ กล่าวว่า ให้ขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทย เนื่องจาก 8 พรรคร่วมรัฐบาลได้มอบให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และประสานกับพรรคการเมืองอื่น ซึ่งตนไม่ติดใจว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด 

สำหรับกรณีที่พรรคก้าวไกล ระบุว่า การที่พรรคเพื่อไทยเชิญพรรคการเมืองเข้ามาหารือเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตทางการเมือง เป็นการยืมมือเพื่อนเพื่อผลักพรรคก้าวไกลออกไป เชาวฤทธิ์ กล่าวว่า คงไม่เป็นเช่นนั้น พรรคเพื่อไทยเพียงเชิญพรรคต่างขั้ว เข้าปรึกษาหารือหาทางออก และ ขอคำแนะนำ ว่ามีปัญหาใดที่ยังติด และให้ 8 พรรคแก้ไขอย่างไรบ้าง