ไม่พบผลการค้นหา
'ประยุทธ์' เผย 'กนกวรรณ' ยังไม่ลาออก 'วิษณุ' ชี้ต้องรอศาลสั่งหรือเจ้าตัวลาออกถึงหยุดปฏิบัติหน้าที่ ด้าน เลขาฯ ครม. เผยยังไม่เห็นใบลาออก

วันที่ 13 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวชี้แจงสั้นๆ กรณีกระแสข่าว กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ ว่า “ยังไม่มีอะไรนะ”

ขณะที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย อธิบายถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด กนกวรรณ ต้องลาออกหรือไม่ ว่า ไม่ต้อง จนกว่าจะถูกวินิจฉัยผิดหรือให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ 

เมื่อถามต่อว่า หากศาลรับพิจารณาต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ใช่หรือไม่ วิษณุ ระบุว่า ไม่จำเป็น ต้องมีการสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ถ้าหยุดปฏิบัติหน้าที่เองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเหมือนกับรัฐมนตรีหลายคนที่ถูกฟ้องเรื่องก็อยู่ในศาล ฉะนั้นขอให้รอศาลเป็นผู้สั่ง ส่วนที่มีข่าวว่า กนกวรรณ จะลาออกตนไม่ทราบ

ทั้งนี้การให้สัมภาษณ์ของนายกฯ ต่อประเด็นดังกล่าว เป็นการพูดก่อนที่จะเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ครั้งที่ 3/2565 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล


เลขาฯ ครม. เผยยังไม่เห็นใบลาออก 'กนกวรรณ'

ด้าน ณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) กล่าวสั้นๆถึงกรณีดังกล่าวว่า 'ยังไม่เห็นเลยคะ' 

เมื่อถามต่อว่า หากรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งต้องมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง เลขา ครม. ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าวโดยยกมือขึ้นเพื่อตัดบทก่อนที่จะเดินเข้าห้องประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม


'อนุทิน' โยน นายกฯ พิจารณา

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ หลังมีกระแสข่าว กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อแสดงสปิริต และไม่กระทบต่อภาพลักษณ์พรรคภูมิใจไทยจริงหรือไม่ ว่า ขอเรียนตามตรง เรายังไม่ได้พูดคุยกันถึงระดับนั้น เพราะตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ ระบุว่าหากศาลประทับรับฟ้อง ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยปริยาย ซึ่งถึงจุดนั้นพรรคภูมิใจไทย ค่อยหารือกันว่าความเหมาะสมคืออย่างไร อีกทั้งขณะนี้ ยังไม่มีใครได้เห็นสำนวนว่า กนกวรรณ ถูกกล่าวหาอย่างไร และถือเป็นเรื่องส่วนตัวที่จะต้องรับผิดชอบตัวเอง ในระดับพรรคจึงยังไม่ทราบความคืบหน้า 

"วันนี้กระแสสังคมจะเป็นตัวเร่งให้เจ้าตัวได้ตัดสินใจในทางใดทางหนึ่ง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย เพราะไม่ใช่การกระทำการผิดกฎหมายเลือกตั้ง หากเป็นเช่นนั้นพรรคจึงเข้ามามีส่วนในการแก้ข้อกล่าวหา แต่เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบส่วนตัว ก็ต้องปล่อยให้เจ้าตัวทำหน้าที่แก้ปัญหาไป หากศาลประทับรับฟ้องเราจะได้เห็นคำสั่งศาลและในพรรคภูมิใจไทยเราก็มีนักกฎหมายมากมาย ถ้าพิจารณาแล้ว เป็นความผิดจริยธรรมจริงตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งถือเป็นข้อกล่าวหาที่ค่อนข้างร้ายแรง เพราะคนที่มีความจริยธรรม หรือทุจริต พรรคภูมิใจไทยคงไม่ต้องรอใบเสร็จ ก็คงมีการพูดคุย และถ้าเรารู้ว่าเขาผิดจริง เราก็ต้องบอกว่าต้องแสดงสปิริตมากกว่าถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ " 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ขณะนี้กระแสสังคมเริ่มกดดันแล้ว และพรรคภูมิใจไทยจะพิจารณาอย่างไร เพราะคงปฏิเสธไม่ได้ว่าผลกระทบจะกลับมาที่พรรคภูมิใจไทยอนุทิน กล่าวว่า ต้องบอกว่าไม่ต้องห่วง เราฟังกระแสสังคม พรรคภูมิใจไทยฟังกระแสประชาชนอยู่ตลอดเวลา การกระทำใดๆ เราก็ต้องมาจากเสียงประชาชนที่ได้ยินมา 

อนุทิน กล่าวต่ออีก ในฐานะหัวหน้าพรรคกับลูกพรรค ในส่วนของความเป็นเพื่อน และเพื่อนร่วมงาน เราก็ต้องให้กำลังใจกัน ขอให้ไปเตรียมตัวมาให้ดี กนกวรรณ ก็บอกว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ สุนทร วิลาวัลย์ นายกฯอบจ.ปราจีนบุรี ก็บอกว่าบริสุทธิ์ ดังนั้นดีที่สุด ก็ต้องไปเตรียมเอกสารหลักฐานมาแก้ต่าง แก้ข้อกล่าวหา ถ้าเตรียมได้ก็รอด ถ้าเตรียมไม่ได้ก็ผิด ส่วนในเรื่องการทางการเมืองไม่ต้องกังวล เพราะ ส.ส.ปราจีนบุรีพรรคภูมิใจไทย ทั้งหมดยกจังหวัด แต่ละคนมีความแข็งแรงในตัวเอง ไม่ได้มาได้เพราะ กนกวรรณ และ สุนทรเท่านั้น 

เมื่อถามว่า แสดงว่าในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ถึงแม้บ้านใหญ่วิลาวัลย์ จะได้รับผลกระทบในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ถือว่าไม่กระทบในทางการเมืองใช่หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ส.ส.ปราจีนบุรี คือ ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย และ อำนาจ วิลาวัลย์ ก็เป็น ส.ส.ปราจีนบุรี คนแรกของพรรคภูมิใจไทย ดังนั้นเราต้องประคบประหงมเป็นอย่างดี 

เมื่อถามว่า คิดว่า กนกวรรณ ควรออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีในจังหวะใดจึงจะสง่างาม อนุทิน กล่าวว่า หากในฐานะพรรคภูมิใจไทยเราจะบังคับให้ใครลาออกไม่ได้ ถ้าเขาไม่ลาออกเสียอย่าง แต่ก็ยอมรับว่าความเป็นรัฐมนตรีเปราะบางกว่าส.ส. ถ้าส.ส.ไม่ลาออกเสียอย่างใครก็เอาเขาลาออกไม่ได้ แต่ถ้าเป็นรัฐมนตรี ถ้านายกรัฐมนตรี บอกว่า แบบนี้อยู่ไม่ไหวแล้ว รัฐบาลมีความเสียหายก็สามารถปรับออกได้เลยตามอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่ถ้านายกรัฐมนตรีบอกว่าพรรคจะต้องดูให้ดี ทางพรรคก็ต้องมาดูให้ดี อย่างที่ตนบอกไปแล้วว่า เรายังไม่เห็นสำนวนจึงต้องให้ศาลประทับรับฟ้องเสียก่อน แล้วค่อยมาพิจารณา แต่ตนขอเรียนว่าหากผู้ใหญ่ของพรรคภูมิใจไทยที่ล้วนแต่มีผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายหากดูแล้วเห็นว่าค่อนข้างสู้ต่อไปลำบาก จะสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ตัวเองไปมากกว่านี้ ก็ควรไปสู่ด้วยความบริสุทธิ์ใจมาก กว่า ก็ต้องมีใครคนหนึ่งที่ต้องกระซิบบอก