ไม่พบผลการค้นหา
รองนายกฯฯ และ รมว.พลังงาน ยอมรับนักลงทุนต่างชาติจับตาการชุมนุมในไทย แต่ไม่กระทบการลงทุน เหตุดูแลการชุมนุมได้เรียบร้อย วอนสองฝ่ายชุมนุมอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย

สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา–อาเซียน เตรียมเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ย. 2563) ว่า ไทยมีศักยภาพและมีความพร้อมที่จะดึงนักลงทุนจากต่างชาติเข้าประเทศ ซึ่งล่าสุด สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ หรือ เอสแอนด์พี ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของไทยเหมือนเดิม ทั้งแนวโน้มที่มองไปข้างหน้าและสถานการณ์ในปัจจุบัน แต่ก็ถือเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนมาเข้าพบ แสดงให้เห็นว่ามีความสนใจจะลงทุนในประเทศไทย

ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับนักลงทุนบางส่วนเมื่อวันที่ 23 พ.ย. มีการสอบถามหลายเรื่อง ซึ่งไทยยืนยัน มีความพร้อมและมีสิ่งดึงดูด ความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากไทยมีการปรับเปลี่ยนในหลายด้าน และหากจำเป็นที่จะต้องมีพันธมิตร ในประเทศไทยก็มีจำนวนมากโดยเฉพาะบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ หรือ ดาวน์โจนส์ ถือได้ว่าเป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือ จึงขอให้นักลงทุนสบายใจ และไว้วางใจ พร้อมย้ำความพร้อมรับมือกับการลงทุน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมใหม่ และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมในไทย ไม่ให้พึ่งพิงอุตสาหกรรมกลุ่มใดหนึ่ง 

ส่วนที่มีการนัดชุมนุมใหญ่ ช่วงเวลาเดียวกับที่นักลงทุนสหรัฐ จะเข้าพบนายกรัฐมนตรีวันที่ 25 พ.ย.นั้น สุพัฒนพงษ์ เชื่อว่า นักลงทุนไม่ได้คำนึงถึงในประเด็นนั้น เพราะเชื่อว่านักลงทุนจะพิจารณาจากการบริหาร จัดการ การชุมนุมของภาครัฐที่ผ่านมา ที่สามารถควบคุมและดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อยได้ อีกทั้งข้อเสนอของผู้ชุมนุม และ การแสดงออกมา ยังไม่มีลักษณะก้าวร้าว หรือว่าสร้างความเสียหายให้กับการลงทุนมากนัก แต่ก็ต้องระมัดระวัง แม้ผู้ชุมนุมจะมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย เช่นเดียวกันกับที่รัฐบาล ก็ต้องปฏิบัติตามกรอบกฎหมาย ในการดูแลการชุมนุม เพราะเป็นสิ่งที่นักลงทุนจับตามองในขณะนี้