เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอเนื้อหาที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อใช้วิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
เบรนดา เพนนี ผู้พิพากษาศาลสูงเขตนครลอสแอนเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีคำพิพากษาตัดสินให้ 'ยกเลิกกระบวนการถูกควบคุมโดยผู้พิทักษ์' ของบริทนีย์ สเปียร์ส อย่างถาวร หลังจากที่เธอต้องทนทุกข์ทรมานภายใต้เครื่องมือทางกฎหมายที่ถูก 'ใช้ในทางที่ผิด' โดยการควบคุมทั้งชีวิตและทรัพย์สินจากพ่อบังเกิดเกล้าของเธอเองยาวนานเกือบ 14 ปีเต็ม
ผู้พิพากษาเพนนีระบุว่า "ทรัพย์สินทุกอย่างที่อยู่ในการควบคุมของผู้พิทักษ์ทรัพย์สินชั่วคราวให้กับบริทนีย์ จะถูกโอนย้ายให้กับบริทนีย์ทั้งหมด ... บริทนีย์ไม่จำเป็นต้องผ่านการประเมินทางการแพทย์ใดๆ ทั้งสิ้นอีกต่อไป"
คำตัดสินยกเลิกกระบวนการผู้พิทักษ์ของบริทนีย์ครอบคลุมทั้งการยกเลิกการถูกพิทักษ์สำหรับบุคคลที่ถูกศาลตัดสินว่าเป็นบุคคลไร้ความสามารถ ทั้งในส่วนของการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ใน 'ชีวิต' และในส่วนของการครอบครองดูแล 'ทรัพย์สิน' ของนักร้องสาวเอง 'อำนาจทั้งหมดจะกลับไปอยู่ในมือของเธออีกครั้ง'
"เวลาของการยกเลิกการควบคุมบริทนีย์ภายใต้กระบวนการผู้พิทักษ์ได้มาถึงแล้ววันนี้" แมทธิว โรเซนการ์ต ทนายความมือดีของนักร้องสาวกล่าวระหว่างขอบคุณในคำตัดสินของผู้พิพากษาเพนนี
"เจมี สเปียร์ส บิดาของบริทนีย์ ได้ทำการทุจริตในกระบวนการผู้พิทักษ์นี้ เขาได้เงินจากทรัพย์สินของลูกสาวไปแล้วราว 131 ล้านบาท เขาจ่ายเงินเดือนให้กับตัวเองจากทรัพย์สินของลูกสาวตลอด 13 ปีกว่าที่ผ่านมา (เดือนละประมาณ 500,000 บาท) เขาหักรายได้เป็นเปอร์เซ็นต์จากการขึ้นแสดงคอนเสิร์ต 4 ปีเต็มที่ลาสเวกัสของบริทนีย์ และการแสดงอื่นๆ ทั้งหมด" โรเซนการ์ต กล่าวบนเวทีของแฟนๆ และผู้สนับสนุนบริทนีย์ในแคมเปญ #FreeBritney บริเวณหน้าศาลฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ศาลสั่งปลดบิดาของ 'บริทนีย์ สเปียร์ส' จากการเป็นผู้พิทักษ์ชีวิต-ทรัพย์สินนาน 13 ปี มีผลทันที
คำตัดสินจากผู้พิพากษาเพนนี เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับความต้องการของบริทนีย์ สเปียร์ส โดยระหว่าการให้การกับศาลครั้งแรกในรอบ 10 ปีของบริทนีย์ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เธอกล่าวกับศาลว่า "ฉันรู้สึกไม่ต่างอะไรกับการถูกค้ามนุษย์ทางเพศ ฉันไม่มีความสุข ฉันร้องไห้ทุกคืน มันผ่านมาเป็น 13 ปีแล้ว ฉันต้องการยุติกระบวนการผู้พิทักษ์โดยถาวร โดยไม่ต้องผ่านการประเมินทางการแพทย์อีกต่อไป ฉันต้องการชีวิตของฉันคืน"
เกือบ 14 ปีที่ผ่านมา หนึ่งในสิทธิ์ที่บริทนีย์สูญเสียไปก็คือการตัดสินใจทางการแพทย์ การถูกบังคับใช้ยาที่มีผลข้างเคียงรุนแรงต่อสภาพร่างกายของเธออย่างต่อเนื่อง การถูกบังคับให้เข้ารับการประเมินทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง และการถูกบังคับให้ต้องคุมกำเนิดเพื่อให้สามารถ 'ทำเงิน' ได้ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'บริทนีย์' เผยหมดเปลือก ถูกจองจำ-ทำร้ายโดย 'พ่อ' นาน 13 ปี ราวกับถูกค้ามนุษย์
แม้ขณะนี้แฟนๆ นับร้อยคนที่มาร่วมฉลองอิสรภาพของนักร้องสาวบริเวณหน้าศาลสูงลอสแองเจลิส รวมถึงแฟนๆ ที่เฝ้าจับตาสถานการณ์จากทั่วโลก จะสามารถพูดได้แล้วว่า บริทนีย์ได้รับอิสรภาพคืนแล้วอย่างแท้จริงในวันนี้ แต่แฟนๆ รวมถึงตัวบริทนีย์และคนใกล้ชิดเองยังต้องการเดินหน้าหา 'ความยุติธรรม' ต่อไป
เกือบ 14 ปีเต็มที่ผ่านมา บริทนีย์และทีมกฎหมายของเธอเชื่อว่า 'เจมี สเปียร์ส' บิดาของเธอ และ 'โรบิน กรีนฮิลล์' อดีตผู้จัดการของนักร้องสาวภายใต้ทีมบริหารที่ชื่อ 'Tri Star Sports & Entertainment Group' ได้กระทำความผิด ทุจริตในการบริหารจัดการชีวิตและทรัพย์สินของบริทนีย์ตลอดช่วงของการถืออำนาจ 'ผู้พิทักษ์' มีการใช้เงินของบริทนีย์ในทางที่ผิด มีการหมกเม็ดตัวเลขบัญชีการใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพราะเกือบ 14 ปีเต็มที่ผ่านมา อดีตทีมผู้พิทักษ์รายงานว่าบริทนีย์มีทรัพย์สินเพียง 60 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,966 ล้านบาทเท่านั้น ทั้งๆ ที่เธอทำรายได้รวมจากอัลบั้ม คอนเสิร์ต และน้ำหอมได้ไม่ต่ำกว่าหลายหมื่นล้านบาท
">Lou Taylor filed legal docs opposing Rosengart's request to receive all of Britney's estate accounting from the last 13 years. Additionally, Robin Greenhill claims that noone at Tri Star had control over B's meds and knew about the recording device in her bedroom. #FreeBritney pic.twitter.com/b1aMJtS4rX
— Mathew Rosengart's investigation assistant (@partylikebrit) November 5, 2021
โรเซนการ์ต ทนายความของนักร้องสาวยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อสั่งให้ 'โรบิน กรีนฮิลล์' อดีตผู้จัดการของบริทนีย์ และ 'ลู เทย์เลอร์' หัวหน้าทีมบริหาร 'Tri Star Sports & Entertainment Group' เข้าให้การกับศาลถึงรายละเอียดการทำสัญญาทางการเงินและธุรกิจทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เกิดความพยายามที่จะบ่ายเบี่ยงการให้ความร่วมมือ โดย Tri Star ปฏิเสธหมายศาลในการเข้าให้การและชี้แจงรายละเอียด รวมถึงพยายามที่จะปิดบังข้อมูลทั้งหมดที่บริทนีย์ต้องการเข้าถึงเพื่อสืบการกระทำย้อนหลัง
อย่างไรก็ตาม ทนายความของบริทนีย์ยังคงเดินหน้าหาทางที่จะตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินในช่วง 13 ปีที่ผ่านมาเพื่อเอาผิดต่อไป โดยเขาเชื่อว่าผู้หญิงทั้งสองคนที่ชื่อ โรบิน และลู คือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การเปิดโปงข้อเท็จจริงทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น 'หลังม่าน' บ้างในช่วงเวลาแห่งการไร้เสรีภาพของ 'บริทนีย์ สเปียร์ส'
"การจะสอบสวนเพื่อเอาผิดบิดาและอดีตทีมบริหารให้ถึงที่สุดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับบริทนีย์ทั้งหมด"
โรเซนการ์ตย้ำกับผู้สื่อข่าว พร้อมระบุด้วยว่า สิ่งที่ต้องหาคำตอบต่อไปก็คือ "Tri Star โกยรายได้ไปจากทรัพย์สินของบริทนีย์เท่าไหร่บ้าง ... Tri Star นำเงินออกไปจากกองทรัพย์สินของบริทนีย์แล้วเป็นจำนวนเท่าใด ผมจะไม่ขอสรุปอะไรทั้งสิ้นตอนนี้ แต่จากการปฏิเสธการให้ความร่วมมือของ Tri Star ทุกคนคงพอจะเดากันออก"
จากการต่อสู้อันยาวนานและสภาพชีวิตที่ 'เจ้าหญิงแห่งวงการเพลงป๊อป' ต้องเผชิญ โรเซนการ์ตกล่าวว่าเขารู้สึกภาคภูมิใจในตัวบริทนีย์มาก เพราะต้องใช้ทั้งพลัง ความอดทน การส่งเสียง และความกล้าหาญ กว่าจะประสบความสำเร็จในวันนี้ได้ และนี่ไม่ใช่แค่การเปิดโปงความทุจริตในกระบวนการผู้พิทักษ์ของเธอคนเดียว แต่มันคือการส่องสปอตไลท์ไปยังกระบวนการผู้พิทักษ์ทั้งแบบ 'Comservatorship' และ 'Guardianship' ที่มีอยู่ทั่วทั้งสหรัฐฯ และมีผู้คนตกอยู่ในกระบวนการนี้นับล้านคน
">"What's next for Britney –– and this is the first time that this could be said for about a decade –– is up to one person: Britney." –Britney Spears' lawyer, Mathew Rosengart, following her court hearing.
— billboard (@billboard) November 12, 2021
Details on the termination of her conservatorship: https://t.co/xH6Im5rq1Q pic.twitter.com/0aJAnF6EJ3
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปหลังจากนี้ ทนายโรเซนการ์ตตอบอย่างปีติว่า "นี่คือการพูดในลักษณะนี้ครั้งแรกในรอบทศวรรษ ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับบริทนีย์แล้ว มันขึ้นอยู่กับบุคคลเพียงคนเดียวแล้วจริงๆ"
ด้านบริทนีย์เองก็ได้โพสต์คลิปวิดีโอของการเฉลิมฉลองของแฟนๆ บริเวณหน้าศาลสูงลอสแองเจลิส พร้อมเขียนแสดงความรู้สึกต่อชัยชนะครั้งสำคัญในชีวิตของเธอบนอินสตาแกรมส่วนตัวว่า "ฉันรักแฟนๆ ของฉันมาก มันบ้ามากจริงๆ ฉันต้องร้องไห้ทั้งวันแน่ๆ นี่คือวันที่ดีที่สุด"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สารคดี ‘บริทนีย์’ จาก Netflix ตีแผ่บทเรียนสำคัญ ‘ระบบกฎหมาย-กระบวนการยุติธรรมสหรัฐฯ’
#FreeBRITNEY