พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงการระบาดเชื้อโควิด-19 กรมอนามัยร่วมกับผู้นำชุมชนจัดทำแนวทางการปฏิบัติเพื่อช่วยให้ผู้ที่อาศัยในชุมชนที่มีพื้นที่ค่อนข้างหนาแน่นสามารถใช้ชีวิต ได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
โดยขอให้จัดจุดคัดกรอง สนับสนุนหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เจลแอลกอฮอล์ สบู่ และเครื่องวัดอุณหภูมิ ให้กับผู้ที่ทำหน้าที่คัดกรอง หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีคนรวมกันจำนวนมาก จัดรถรับ-ส่งผู้ป่วย หรือการรับยาแทนกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว และผู้ด้อยโอกาสอื่นๆ และจัดทำฐานข้อมูลของกลุ่มดังกล่าวเพื่อใช้ในการติดตามช่วยเหลือ รวมทั้งให้คนในชุมชนยึดหลักมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อย่างน้อย 1-2 เมตร และหมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำเป็นประจำ สวมหน้ากากผ้าทุกครั้ง เมื่อออกจากบ้าน และสังเกตสุขภาพของตนเอง หากพบมีอาการไข้ ไอ จาม หรือเหนื่อยหอบ ให้ไปพบแพทย์ทันที
เนื่องจากที่พักอาศัยในชุมชนส่วนใหญ่มีพื้นที่จำกัดและอยู่ร่วมกันหลายคน จึงต้องเน้นย้ำสุขอนามัยส่วนบุคคล ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกัน หมั่นทำความสะอาดที่พักโดยเฉพาะจุดที่มีการใช้งานร่วมกัน เช่น ลูกบิดประตู โต๊ะ เก้าอี้ ห้องส้วม ของใช้ในบ้าน ด้วยน้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ซักและทำความสะอาดเครื่องนอนสม่ำเสมอ ดูแลให้มีการระบายอากาศภายในบ้าน เปิดประตู หน้าต่างให้ได้รับแสงแดดธรรมชาติส่องทั่วถึงภายในบ้านอย่างน้อยวันละครั้ง และให้มีการคัดแยกขยะโดยทิ้งในภาชนะที่มี ฝาปิดหรือถุงขยะที่สามารถมัดปากถุงได้มิดชิด แล้วนำไปทิ้งบริเวณจุดรวบรวมที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดไว้ให้เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกต้องต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับร้านค้า ตลาด ร้านอาหาร และแผงลอยขายอาหารในชุมชน ต้องกำกับให้มีการดูแล ความสะอาดของสถานที่ อุปกรณ์และสุขนิสัยผู้สัมผัสอาหาร ให้เป็นตามหลักสุขาภิบาลอาหาร และในกรณีที่ชุมชนพบมีผู้ป่วยยืนยันสัมผัสเชื้อโควิด-19 หรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่งเป็นจุดแพร่เชื้อ เจ้าของสถานที่ต้องหยุดให้บริการ 3 วัน และทำความสะอาดฆ่าเชื้อทันทีภายใน 24 ชั่วโมง ภายใต้การกำกับดูแลของพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :