ผู้หญิงชาวแคนาดาวัย 36 ปีที่เปิดเผยชื่อเพียง ‘นิโคล’ ได้ส่งพัสดุที่มีกระเบื้องโมเสค 2 ชิ้นไปให้บริษัทท่องเที่ยวในปอมเปอี เมืองโบราณทางตอนใต้ของอิตาลี จากนั้น บริษัทท่องเที่ยวจึงได้ส่งชิ้นส่วนดังกล่าวไปให้ตำรวจ

พัสดุที่มีกระเบื้องโมเสคนี้มาพร้อมจดหมายสารภาพผิดว่า นิโคลได้ขโมยวัตถุโบราณนี้มาจากปอมเปอีเมื่อปี 2548 เพราะเธอ “เยาว์และเขลา” เธอต้องการจะเก็บชิ้นส่วนทางประวัติศาสตร์ที่ “คนอื่นไม่มี” แต่วัตถุโบราณที่เธอขโมยไปนี้ทำให้เธอประสบกับความโชคร้ายนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 

นิโคล เล่าว่า เธอต้องทรมานจากการเป็นมะเร็งเต้านม 2 ครั้ง จนต้องตัดเต้านมออก และครอบครัวของเธอก็ประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก นิโคลเชื่อว่า กระเบื้องโมเสคเหล่านี้มี “พลังงานลบสูงมาก … เกี่ยวข้องกับดินแดนแห่งหายนะ” แต่เธอได้รับบทเรียนแล้ว เธอไม่ต้องการส่งต่อคำสาปนี้ไปยังครอบครัวและลูกๆ ของเธอ เธอได้ “ขอให้พระเจ้าอภัยให้เธอ” พร้อมกล่าวว่า วันหนึ่งเธอจะกลับไปอิตาลี เพื่อขอโทษด้วยตัวเอง

ปอมเปอี เป็นเมืองสมัยจักรวรรดิโรมันที่ถูกฝังทั้งเป็นใต้กองเถ้าถ่าน หลังจากที่ภูเขาไฟวิซุเวียสระเบิดช่วงค.ศ. 79 (พ.ศ. 622) เมืองนี้ถูกขุดพบในศตวรรษที่ 16 และได้เปลี่ยนความเข้าใจเกี่ยวกับโลกยุคคลาสสิกไปอย่างมาก และปัจจุบันปอมเปอีได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของอิตาลี

ปอมเปอีประสบปัญหานักท่องเที่ยวขโมยโบราณวัตถุไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยส่วนมากนักท่องเที่ยวมักขโมยโบราณวัตถุไปเป็นของที่ระลึก แต่บางคนก็พยายามจะนำไปขายออนไลน์ โดยปี 2558 ก็มีคนประกาศขายอิฐที่ขโมยมาจากซากเมืองปอมเปอีเมื่อปี 2501 มาขายบนเว็บไซต์ eBay

อย่างไรก็ตาม มีโบราณวัตถุหลายชิ้นที่ถูกส่งคืนไปยังพิพิธภัณฑ์เมืองปอมเปอี พร้อมจดหมายอธิบายความรู้สึกผิด โดยก่อนหน้านี้ ก็มีคู่รักชาวแคนาดาไดส่งคืนหินที่ขโมยจากปอมเปอีไปเมื่อปี 2548 พร้อมจดหมายสารภาพผิดว่า “พวกเขาขโมยไปโดยไม่นึกถึงความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานของวิญญาณผู้น่าสงสารเหล่านี้ที่ต้องประสบเหตุภูเขาไฟวิซุเวียสระเบิดและเสียชีวิตอย่างอนาถ พวกเราขอโทษ กรุณาให้อภัยต่อการตัดสินใจที่ผิดพลาด ขอให้วิญญาณของพวกเขาหลับให้สบาย”

ที่มา : The Guardian, Wanted In Rome