วันที่ 5 ก.พ. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานการเสวนานวัตกรรมประเทศไทย “Innovation Thailand Forum 2021” พลิกวิกฤติด้วยนวัตกรรมไทย จัดโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) โดยกล่าวว่า หลายท่านอาจไม่ทราบว่าเวลานี้ประเทศไทยนั้น ในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากกว่าที่คนไทยรู้ และมากกว่าผู้ที่มีการศึกษาของไทยจะทราบ รวมถึงมากกว่าที่รัฐบาลเองจะตระหนัก
เช่นทางด้านดาวเทียมและยานอวกาศ ตอนนี้คนไทยสามารถผลิตดาวเทียมลูกเล็กๆ ได้แล้ว จากนั้นก็จะผลิตดาวเทียมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นตามลำดับ โดยภายใน 4 ปี เราจะสามารถผลิตดาวเทียมที่มีขนาด 150 กิโลกรัมได้ ก่อนจะเปลี่ยนดาวเทียมขนาดดังกล่าวให้มีน้ำหนักเป็น 300 กิโลกรัม โดยมีอีก 150 กิโลกรัม เป็นแก๊สซีนอน ซึ่งเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนดาวเทียมให้กลายเป็นยานอวกาศ พุ่งเป้าไปที่การโคจรไปยังดวงจันทร์ โดยเป็นการขับเคลื่อนแบบไม่มีคนอยู่บนยาน รับการควบคุมจากพื้นดิน
เอนก กล่าวว่า นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เรามีเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูใช้มาประมาณ 60 ปีแล้ว โดยได้รับจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะหมดอายุการใช้งานแล้ว และจวนจะถึงเวลาต้องซื้อใหม่ แต่เวลานี้นักเทคโนโลยีนิวเคลียร์ของไทย มีแผนการที่จะทำขึ้นมาเอง ไม่น้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้เกิดความภาคภูมิใจ
รมว.อว. เปิดเผยว่า ยังมีความน่ายินดีอีกเรื่องหนึ่ง ที่จะบอกว่าโดยปกติคนไทยนั้นเก่งอยู่แล้ว แต่จะเก่งมากๆ ยามวิกฤติ เรียกว่า เก่งอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเราสามารถทำวัคซีนโควิด-19 ไฮเทค 2 ชนิดได้สำเร็จ โดยผ่านการทดลองกับลิงมาแล้ว อยู่ในขั้นตอนการทดลองกับมนุษย์ ซึ่งผลิตโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
“คนไทยมีความเก่งทั้งศาสตร์และศิลป์ เก่งทางวิทยาการด้านนวัตกรรม เพียงแต่ระบบของเรายังต้องปรับปรุงแก้ไข ผมในฐานะรัฐมนตรี อว.จะปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวเองให้ได้มากที่สุด เร็วที่สุด แรงที่สุด” เอนก ระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง