แม้หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคย หรือมอง ‘รถยนต์บินได้’ เป็นความผิดแปลก แต่ก็มีกระแสออกมาเป็นระลอกๆ ว่าบรรดานักประดิษฐ์สุดล้ำกำลังเร่งพัฒนาการคมนาคมแห่งอนาคตในรูปแบบประหยัดพลังงานกันอยู่ทุกวินาที เพราะส่วนใหญ่รถยนต์บินได้ใช้การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า และสามารถก้าวไกลกว่านั้นด้วยระบบไร้คนขับ สำหรับการพัฒนาสเต็ปต่อไป

ด้วยความเจ๋งของเทคโนโลยีที่น่าจับตสมอง Voice On Being จึงรวบรวมเทรนด์รถยนต์บินได้มาให้อ่านกัน เพราะเชื่อว่าปีหน้า ประเด็นรถยนต์บินได้น่าจะเป็นที่จับตาอย่างร้อนแรงมากขึ้น เพราะปีนี้มีหลายค่ายเพิ่งคิกออฟการพัฒนาไปหมาดๆ

ค่ายดังจากทุกอุตสาหกรรมร่วมวงพัฒนา 'รถยนต์บินได้'

ไม่ว่าจะเป็น ‘เทสลา’ (Tesla) ของเจ้าพ่ออีลอน มัสก์ แห่งซิลิกอน วัลเลย์ ที่เคยประกาศว่า นอกจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญแบตเตอรีรถยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ ระบบการชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ และวิศวกรรมรถยนต์แล้ว เขาก็เคยเปรยด้วยว่า อยากขึ้นเป็นผู้นำการพัฒนารถยนต์บินได้ ‘Flying Cars’ หรือชื่อเฉพาะว่า ‘VTOL’ ที่ย่อมาจาก ‘A vertical take-off and landing’ หรือยานพาหนะที่จะออกตัว และลงจอดในแนวดิ่ง

ระยะหลัง แม้มัสก์ค่อนข้างระวังเกี่ยวกับการเปิดเผยแผนการตลาดในระยะสั้น เพราะเคยโดนถล่มยับจากการผลิตสินค้าส่งถึงมือลูกค้าไม่ทัน แต่เขากลับออกมาพูดถึงความปรารถนาในการออกแบบยานพาหนะที่สามารถบินขึ้น-บินลงได้หลายต่อหลายครั้ง

นอกจากอีลอน มัสก์ จะเป็นเจ้าของเทสลาแล้ว เขายังเป็นเจ้าของบริษัทสเปซ เอ็กซ์ (SpaceX) ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาการท่องอวกาศราคาประหยัด ความสามารถของเขาในด้านนี้อาจจะทำให้ความฝันรถบินของเขาไม่ไกลเกินฝัน

ก่อนหน้านี้ เมื่อราวกลางปีที่ผ่านมา ‘อูเบอร์’ (Uber) ก็ประกาศจะให้บริการแท็กซี่บินได้บนน่านฟ้าเหมือนกัน โดยจับมือพันธมิตรกับหลายบริษัท ภายใต้ชื่อสุดคูลว่า ‘อูเบอร์ แอร์’ (Uber Air) รองรับผู้โดยสารสูงสุด 4 คน พร้อม 1 คนขับ

• อูเบอร์ แอร์ พัฒนาโดยอูเบอร์

ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเองก็เชื่อว่า อูเบอร์สามารถทำความฝันได้จริงภายใน 3-4 ปีข้างหน้า หากไม่ใส่ใจเรื่องราคาที่อาจจะแพงเกินคนทั่วไปเอื้อมถึง ขณะที่ซีอีโออูเบอร์ให้สัญญาว่าจะทำให้ราคาเป็นที่ต้องการของตลาดให้ได้

อูเบอร์ แอร์ จะเริ่มต้นทดสอบในปี 2020 โดยเล็งเปิดตัวบริการจริงในลอสแองเจลิส ดัลลัส และเมืองนอกประเทศที่ยังไม่เปิดเผยชื่อ เป็น 3 เมืองแรกในปี 2023 และดูเหมือนว่าอูเบอร์จะจริงจังไม่น้อย เพราะได้จัดงานสัมมนา‘ฟลายอิ้ง แท็กซี่’ ไปถึง 2 รอบแล้วในปีที่ผ่านมา

ความดุเดือดของตลาดคมนาคมทางอากาศแนวดิ่งยังไม่จบแค่นี้ เพราะอันที่จริงแล้ว บรรดาผู้ผลิตเครื่องบิน ‘แอร์บัส’ (Airbus) ก็ร่วมมือกับกูเกิลพัฒนา ‘คิตตี้ ฮว็อค’ (Kitty Hawk) เรื่อยๆ มาเรียงๆ เหมือนกัน

นอกจากนั้น ‘โรลส์-รอยซ์’ (Rolls-Royce) เองก็ไม่ยอมแพ้ ประกาศแผนการสร้างยานพาหนะบินได้ ด้วยความเชื่อมั่นในฐานะผู้ผลิตเครื่องยนต์ สำหรับเครื่องบินทั่วโลกมาอย่างยาวนาน

• โมเดลคิตตี้ ฮว็อค ของแอร์บัส

อนาคตที่บินผ่านรถติดไปชิลๆ

เพราะอะไร ทั่วโลกควรจะตื่นเต้นกับข่าวนี้?

เพราะมันไม่ใช่ความทันสมัยที่สร้างความเห่อประเดี๋ยวประด๋าว แต่เป็นอนาคตการขนส่ง และการยกระดับชีวิตของมนุษย์เลยก็ว่าได้

ลองนึกดูหากคุณสามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดใกล้ๆ ในระยะเวลา 15-30 นาที โดยไม่ต้องไปต่อคิวขึ้นทางด่วน ไม่ต้องเจอความแออัด รถติด ขึ้นที่ไหนก็ได้ เพราะยานพาหนะเทคออฟในแนวดิ่ง ไม่กินพื้นที่แต่อย่างใด และหากบินไกลไปได้มากขึ้น ไปเมืองเหนือ เมืองใต้ ไปต่างประเทศ คงสะดวก และเป็นส่วนตัวน่าดู เพราะไม่ต้องไปต่อคิวที่สนามบินอีกต่างหาก

แม้นี่จะยังเป็นเพียงขั้นต้นของการพัฒนา แต่ลองคิดข้ามไปถึงช่วงเวลาที่เริ่มเปิดบริการจริง คงมีเรื่องถกเถียงกันอีกยาว เกี่ยวกับพื้นที่การบริการ การขึ้น-ลงจอด ตลอดจนการเข้ามาแทนที่ธุรกิจเก่าๆ มากมาย ทั้งรถไฟ รถทัวร์ สายการบิน ฯลฯ

ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน และกำลังจะเกิดขึ้นจริง ที่แน่ๆ สำนักวิจัยอย่างมอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) ก็เริ่มทำวิจัยเรื่องนี้ในปีนี้แล้ว จัดอันดับความน่าสนใจและความก้าวหน้าของแต่ละค่าย เพื่อช่วยนักลงทุนตัดสินใจใส่เงินลงทุนในบริษัทที่การพัฒนามีโอกาสเป็นไปได้ และมีนักลงทุนกระเป๋าหนักเตรียมเทเงินลงทุนอย่างอุ่นหนาฝาคั่งแน่นอน

ที่มา :

• Are flying taxis about to become a reality?
• Uber’s ‘flying taxis’ will be built by these five aerospace companies
• Rolls-Royce develops propulsion system for flying taxi