กระทรวงป้องกันความสงบแห่ง สปป.ลาว กำหนดมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 โดยออกคำสั่งจำกัดการเดินทางเข้าออกประเทศ เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า จะอนุญาตการเดินทางเข้าออกเฉพาะกรณีที่จำเป็น เช่น ไปราชการหรือเข้ารับการรักษาพยาบาล แต่ไม่อนุญาตการเดินทางเข้าและออกนอกประเทศเพื่อการท่องเที่ยว เยี่ยมเยือน ซื้อของเล็กๆ น้อย และค้าขายรายย่อย

โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ออกประกาศแจ้งว่า คนต่างประเทศ รวมถึงคนไทย ที่จะเดินทางเข้าประเทศลาว จะอนุญาตเฉพาะผู้ที่ได้รับอนุมัติวีซ่าลาว ผู้หนังสือเดินทางการทูต ราชการ หรือผู้เชี่ยวชาญที่รัฐบาลมีความต้องการให้ปฏิบัติภารกิจ ผู้ที่ได้รับวีซ่าเข้า-ออกหลายครั้ง (multiple entry visa) จากการกระทรวงการต่างประเทศของลาว เช่น นักลงทุน ผู้เชี่ยวชาญ และพลเมืองของประเทศที่มีชายแดนติดกับลาว หากมีความจำเป็นต้องเดินทางเข้า-ออกลาวโดยใช้บัตรผ่านแดน หรือบัตรผ่านแดนชั่วคราวเพื่อจุดประสงค์ทางราชการ ขนส่งสินค้าขนาดใหญ่และในปริมาณมาก รักษาพยาบาล ยกเว้นเข้ามาท่องเที่ยวหรือเยี่ยมเยียน 

ส่วนคนต่างประเทศที่อยู่ในลาวอยู่แล้ว และประสงค์ที่จะอยู่ต่อ สามารถต่อเวลาพำนักอยู่ชั่วคราวได้ที่กรมตำรวจตรวจคนเข้า-ออกเมือง และกองบัญชาการป้องกันความสงบแขวงทั่วประเทศ โดยมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 21 มี.ค.-20 เม.ย.2563 จนกว่าจะมีการแจ้งเป็นอย่างอื่น

ขณะเดียวกัน จังหวัดมุกดาหารได้ประกาศระงับการเดินทางผ่านด่าน ท่าข้ามท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองมุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.-20 เม.ย. 2563 แต่ด่านสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) เปิดทำการปกติ ประชาชนลาวสามารถเดินทางกลับบ้านได้ตามปกติ และคนไทยที่อยู่ในลาวก็ยังเดินทางกลับไทยได้