เครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษา เคียงข้างประชาชน เพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ในวันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน 2563 เวลา 12.00 ณ ลานหอศิลป์กทม. โดยปักหุ่นไล่กา ท่ามกลางสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ประชาชนมีความหวาดระแวงต่อการแพร่ระบาดของโรคที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีเพียงแค่ผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้คนเพียงอย่างเดียว แต่เป็นสิ่งที่รัฐบาลอาศัยความกลัวในจิตใจของประชาชน ฉวยโอกาสบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อรวบรวมอำนาจไว้ที่นายกรัฐมนตรีด้วยเช่นกัน
ความเดือดร้อนของประชาชนชาวไทยที่อยู่ภายใต้รัฐบาลสืบทอดอำนาจของพลเอกประยุทร์ จันทร์โอชา ในการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาล ได้ถูกซ้ำเติมด้วยนโยบายการรับมือโรคระบาดแบบเหมารวมที่ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนโดยเฉพาะประชาชนที่มีรายได้น้อยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศและนโยบายเยียวยาที่ไร้ประสิทธิภาพ รวมไปถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวางของรัฐบาลกลับถูกกลบฝังด้วยอำนาจ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ารัฐบาลจงใจใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินเพื่อสกัดกั้นผู้เห็นต่างทางการเมืองกับรัฐบาล โดยไม่คำนึงเลยว่าการใช้อำนาจดังกล่าวได้สร้างความทุกข์ยากต่อประชาชนทั้งประเทศ
หุ่นไล่กาเหล่านี้ จึงเป็นตัวแทนของปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศอันเป็นผลมาจากการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จของรัฐบาล และความคับข้องใจของผู้คนในสังคมจากการบริหารราชการแผ่นดินอย่างไร้ประสิทธิภาพ ความล้มเหลวของแผนงานเศรษฐกิจ และการที่รัฐพยายามสร้างความชอบธรรมในการใช้ พรก.ฉุกเฉินเพื่ออำนาจกิจการของตน รัฐบาลกำลังหากินกับความทุกข์ยากของประชาชนโดยใช้โรคระบาดเป็นข้ออ้าง ทั้งๆ ที่มี พ.ร.บ.โรคติดต่อ ด้วยเหตุผลเดียวก็คือรักษาอำนาจเผด็จการไว้ในมือเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง
ดังนั้นเครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษา เคียงข้างประชาชน เพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยขอเรียกร้องให้ยกเลิกการบังคับใช้พระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน และใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 หรือกฎหมายตามสถานการณ์ปกติในการรับมือกับการระบาดของโรค COVID-19 แทน พร้อมทั้งประกาศให้ประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติในวิถีใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาประชาชนได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถรับมือกับโรคระบาดและชีวิตวิถีใหม่ได้ดีกว่ารัฐบาล