นับถอยหลังไปเมื่อปี 2557 เมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขึ้นครองอำนาจด้วยวิถีทางนอกรัฐธรรมนูญ สิ่งที่สถานีปลุกความคิดต้องฟันฟ่าตลอด 5 ปีของการยึดอำนาจ ไม่ใช่เรื่องง่าย
'วอยซ์ออนไลน์' รวบรวมข้อมูลบันทึกไว้เป็นหลักฐาน การต่อสู้ของสื่อมวลชนฝ่ายก้าวหน้ากับเผด็จการล้าหลัง จาก รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ผลกระทบจากประกาศ คสช. คำสั่ง คสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช. ของกรรมาธิการกฎหมายฯ ระบุว่า ระหว่าง 22 พ.ค. 2557 – 22 ก.พ. 2562 มีการอาศัยหลักเกณฑ์ตามประกาศและคำสั่ง คสช. ที่เกี่ยวข้อง ทำบันทึกข้อตกลงระหว่างสื่อและกสทช. และมาตรา 37 ของ พ.ร.บ.ประกอบกิจการฯ ไปแล้ว อย่างน้อย 59 ครั้ง
โดยสำนักงาน หรือสถานีข่าว ที่ถูกการใช้อำนาจปิดปากมากที่สุด คือ วอยซ์ทีวี จำนวน 24 ครั้ง แบ่งเป็น
ตักเตือน 12 ครั้ง
ระงับการออกอากาศรายการ 15 วัน 2 ครั้ง
ระงับการออกอากาศรายการ 7 วัน 2 ครั้ง
ระงับการออกอากาศรายการ 3 วัน 2 ครั้ง
ปรับปรุงเนื้อหารายการ 2 ครั้ง
ระงับการดำเนินรายการของพิธีกร 10 วัน 1 ครั้ง
ระงับการดำเนินรายการของพิธีกร 7 วัน ปรับ50,000บาท 1 ครั้ง
ระงับการออกอากาศทั้งสถานี7 วัน 1 ครั้ง
ทำความเข้าใจ 1 ครั้ง
ในภาพรวม วอยซ์ทีวี ถูกระงับการออกอากาศรายการ 50 วัน ปิดกั้นเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นจอดำ 1 สัปดาห์ พร้อมใช้ตัวบทปิดปากพิธีกรรวม 17 วัน ปรับเงินอีก 50,000 บาท พร้อมทั้งมีการเรียกปรับทัศนคติและตักเตือนรวม 13 ครั้ง
แต่เมื่อลงในรายละเอียดจะพบเรื่องน่าชวนคิด การคุกคามสื่อสารมวลชนอันเป็นดัชนี้ชีวัดเสรีภาพของคนในสังคม ในหลายกรณีกลับไม่ปรากฏผู้ร้องเรียน และหลายครั้งหลายคนก็ไม่ปรากฏการอ้างอิงตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ยกตัวอย่างเช่น ในการตักเตือนครั้งหนึ่งที่ประชุม กสท. เห็นควรมีหนังสือเตือนใจความว่า "ใช้ความระมัดระวัง ความละเอียดรอบคอบ... พิจารณาความเหมาะสมของผู้ดำเนินรายการที่ควรจะต้องมีการนาเสนอเนื้อหารายการโดยมุ่งเน้นการรายงานข้อเท็จจริง และเว้นการ วิพากษ์วิจารณ์ด้วยถ้อยคาที่รุนแรงและการนาเสนอความคิดเห็นส่วนบุคคลต่อเหตุการณ์ที่นามาออกอากาศ"
ไม่มีการระบุรายการ พิธีกรที่กล่าวหา หรือบางท่อนบางตอนที่ระบุว่าไม่อ้างอิงกับข้อจริง ทั้งยังสะท้อนจิตใต้สำนึกวิธีคิดของอำนาจดิบเถื่อนในการถูกสติปัญญาของวิญญูชนผู้รับชมวอยซ์ทีวี และออนไลน์ ว่า ไม่มีการกลั่นกรองข้อมูลข่าวสาร หรือบทวิเคราะห์จากผู้ดำเนินรายการ
สิ่งที่หยิบยกนำเป็นหลักพิงในการปิดปาก ก็หนีไม่พ้นมาตรา 44 ยาวิเศษของคณะรัฐประหาร กฎหมายเฉพาะของหน่วยงานกสทช. และบันทึกความเข้าใจร่วมกันกับสถานี ได้แก่
ประกาศ คสช. ที่ 97/2557 และ 103/2557, มาตรา 37 ของพ.ร.บ.ประกอบกิจการฯ และบันทึกข้อตกลงระหว่าง กสทช.กับวอยซ์ ทีวี ซึ่งเมื่อปรากฏการใช้ข้อกฎหมายจากปลายกระบอกปืนนั้น มักจะปรากฏผู้ร้องเรียนควบคู่กันไปด้วย นั่นก็คือ คณะทำงานติดตามสื่อฯ คสช.
รายการที่สะกิดต่อมฉุนของผู้นำและเครือข่ายเผด็จการลายพรางตลอด 5 ปี ก็หนีไม่พ้นรายการยอดนิยมของสถานีคิด ช่วงตื่นนอน-ก่อนนอน อย่าง Wake up Thailand, The Daily Dose และ tonight Thailand
ประเด็นที่หยิบยกขึ้นมาตัดสินชี้มูลว่า พบความไม่เหมาะสมของเนื้อหา คือ บทตอนของรายการที่เชิดชู สิทธิมนุษยชน ความสวยงามของสิทธิ เสรีภาพ เสมอภาค ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ตลอดจนการวิพากษ์ถึงการรัฐประหาร ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่อำนาจไม่อยากให้ประชาชนต้องรับฟัง จึงต้องนำไปสู่การปิดกั้น
ประเด็นแสลงหูชายผู้ยึดอำนาจจากนายกฯหญิง เช่น 'ต้องปรับร่างรัฐธรรมนูญถ้าไม่อยากล้ม' เมื่อ 27 เม.ย. 58 'รำลึกถึงความสูญเสียของคนไทยในพฤษภาอำมหิต' เมื่อ 20 พ.ค. 58 'ปัญหาคนส่วนน้อยไม่ยอมรับมติจากเสียส่วนใหญ่' เมื่อ 6 ก.พ. 59 'พลเมืองโต้กลับนัดชุมนุมใหญ่ศุกร์นี้เจอกัน' เมื่อ 21 เม.ย. 2559 และ 'บิ๊กตู่อย่าดึงประเทศไทยกลับไปสมัยจอมพลสฤษดิ์' เมื่อ 4 ก.ค. 59
นักวิเคราะห์ข่าวที่ต้องเผชิญหน้ากับอำนาจดิบของคณะรัฐประหารโดยตรงได้แก่ ม.ล. ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ในรายการ Wake Up News และ Tonight Thailand และอธึกกิต แสวงสุข ในรายการ Wake Up News และ คอลัมน์ Overview ในรายการ Voice News ซึ่งทั้งสองถูกสั่งให้การจัดรายการ
ไม่เพียงเท่านั้น การยืนหยัดทำสิ่งที่ถูกต้องยังต้องเจอกับจอดำ 7 วัน เมื่อ กสทช. แจ้งว่า 'วอยซ์ ทีวี' มีรายการ 4 รายการมีเนื้อหาที่เข้าข่ายละเมิดประกาศ คสช. และพ.ร.บ. ประกอบกิจการฯ ดังนี้
รายการ ใบตองแห้ง เรื่อง จากธัมมี่ถึงทักกี้ ประเทศนี้ยังปรองดองได้อยู่หรือ เมื่อ 15 มี.ค. 2560
รายการ In her View เรื่อง ไล่เรียงเหตุการณ์จังหวะแห่งข่าวโกตี๋กับอาวุธพร้อม แถลงการณ์แผนลอบสังหาร เมื่อ 20 มี.ค. 2560
รายการ Over View เรื่องกองทัพป้องทหารยันยิงทิ้งเด็กล่าหู่ถูกต้องทุกกรณี เมื่อ 20 มี.ค. 2560
รายการ Voice News ช่วง Voice News Report เรื่อง วีระ สมความคิด แสดงความคิดเห็นกรณี บ่อนตาพระยา เมื่อ 20 มี.ค. 2560
ฐานความผิด คือ ขัดคำสั่งและประกาศ คสช. ประกอบกับการกระทำความผิดซ้ำซาก
หนักหนาที่สุดคือ จอดำ 15 วัน ระงับการออกอากาศทั้งสถานี ด้วยข้อกล่าวหาไม่เป็นเช่นธรรมเช่นเดิม โดยพุ่งเป้าไปที่ 2 รายการหลัก อย่าง wake up thailand และ tonight thailand
ความอยุติธรรมทั้งหมดคือสิ่งที่ 'วอยซ์ทีวี' ต้องเผชิญ จากการทำหน้าที่เป็นด่านหน้าทวงถามความเป็นธรรม กระตุกต่อมความคิดให้สังคมยึดถือความถูกต้อง อยู่ร่วมกันอย่างมีเหตุผล ตามคุณค่าและจรรยาบรรณแห่งฐานันดรที่ 4 และยืนว่า ยังมุ่งมั่นที่จะทำต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง