ไม่พบผลการค้นหา
กรมธุรกิจพลังงาน เตรียมประกาศให้ขายบี 20 ผ่านปั๊มได้ ขายเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถเมล์เท่านั้น ช่วยลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก ด้านโรงกลั่นพร้อมส่งแผนลงทุนสัปดาห์หน้าปรับมาตรฐานน้ำมันสู่ยูโร 5 คาดลงทุน 3.5 หมื่นล้านบาท

น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน หรือ ธพ. เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้ ธพ. เตรียมประกาศคุณสมบัติน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ (บี20)  เพื่อให้สามารถจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมันทั่วไปได้ โดยจะมีการระบุรายละเอียดของรถยนต์ในแต่ละรุ่นที่สามารถใช้ได้ เพื่อเป็นมาตรการระยะสั้นในการเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ( PM 2.5) ที่กระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยเฉพาะในกทม.และปริมณฑล โดยปัจจุบันบี 20 มีการใช้กับรถบรรทุกขนาดใหญ่และเปิดจำหน่ายตามจุดจอดรถหรือ Fleet รถบรรทุก และ รถเมล์ ขสมก. 

ส่วนราคาจำหน่ายบี 20 ราคาจะต่ำกว่าดีเซลปกติ (บี7) ขณะนี้ 5 บาทต่อลิตรถึงเดือน ก.พ. นี้ส่วนจะต่อหรือไม่อย่างไรก็คงจะต้องอยู่ที่ระดับนโยบาย ซึ่งจากการทดสอบแล้วว่าบี 20 ช่วยลดฝุ่นละออง 10% และยังลดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นการทดสอบโดย บมจ.ปตท.

สำหรับยอดใช้น้ำมันบี 20 ล่าสุด ธ.ค. 61 อยู่ที่ประมาณ 5.2 ล้านลิตรต่อเดือนเพิ่มขึ้นจากเดือนต.ค.61 ที่มีการใช้ 3.5 ล้านลิตรต่อเดือน และเดือน ม.ค. 62 นี้คาดว่าจะมีการใช้เพิ่มเป็น 10 ล้านลิตรต่อเดือนได้หลังจากที่ ขสมก. และ บขส. มีนโยบายนำรถที่มีทั้งหมดมาใช้บี 20  

นอกจากนี้ ระยะยาวล่าสุดได้หารือร่วมกับผู้ประกอบการโรงกลั่น 6 แห่งได้แก่ ไทยออยล์ บางจาก เอสโซ่ พีทีทีโกลบอลเคมิคอล (GC) สตาร์ปิโตรเลียมรีไฟน์นิ่ง (SPRC) และไออาร์พีซี ว่า ได้มอบหมายให้ผู้ประกอบการโรงกลั่นไปเร่งรัดทำแผนการลงทุนปรับปรุงมาตรฐานคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงจากปัจจุบันยูโร 4 (กำมะถันไม่เกิน 50 PPM  ) เป็นยูโร 5 (กะมะถันไม่เกิน 10PPM)ภายในสัปดาห์หน้า โดยการดำเนินการจะทำควบคู่ กับการศึกษาของกรมควบคุมมลพิษ ที่ประสานกับหน่วยงานอื่นๆ เช่น ค่ายรถยนต์ที่เครื่องยนต์ต้องรองรับ ยูโร 5 หากพร้อมก็ต้องเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และ ครม. เพื่อประกาศใช้ต่อไป หลังจากนั้นก็จะมีการบังคับใช้ 5 ปีนับจากที่ประกาศเพื่อให้โรงกลั่นได้เตรียมตัวซึ่งหากเร็วที่สุดก็คงจะเป็นปี 2567

ทั้งนี้ ปัญหาฝุ่นละอองนั้นส่วนหนึ่งอาจจะมาจากมาตรฐานน้ำมันแต่ปัจจุบันน้ำมันยูโร 4 ถือว่าเป็นมาตรฐานที่สูงแต่เพื่อดูแลปัญหามลพิษไม่ให้กระทบกับสังคมทางกลุ่มโรงกลั่นก็พร้อมให้ความร่วมมือที่จะปรับเพิ่มเป็นยูโร 5 โดยจะมีการขอรับสิทธิประโยชน์การลงทุนผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ด้วยเนื่องจากลงทุนจำนวนมากภาพรวมคาดว่าจะต้องลงทุนใหม่ประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามโรงกลั่นบางแห่งได้มีการลงทุนส่วนขยายบางเฟสเป็นยูโร 5 ไปบ้างแล้ว ซึ่งมาตรฐานยูโร 5 นั้นจะมีการกำหนดคุณภาพน้ำมันทั้งดีเซล เบนซินและแก๊สโซฮอล์ที่ค่ากำมะถันไม่เกิน 10PPM ขณะที่เฉพาะส่วนดีเซลยังกำหนดให้สารโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอนไม่เกิน 8% โดยน้ำหนัก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง