แม้ทางการจีนจะยืนยันมาตลอดว่า ไม่เคยปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต้นตอของโรคโควิด-19 แต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งในประเทศและต่างประเทศก็ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด ศิลปินชายชายจีน วัย 39 ปี ซึ่งใช้นามแฝงว่า Brother Nut ประกาศจัดกิจกรรม #ShutUpFor30Days เพื่อประท้วงเงียบต่อรัฐบาลจีน ซึ่งเขาเชื่อว่า มีความพยายามที่จะปิดกั้นไม่ให้ประชาชนจีนได้รับทราบข้อเท็จจริงหรือถกเถียงในประเด็นที่เกี่ยวกับโรคโควิด-19
สำนักข่าว Reuters รายงานอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของ Brother Nut ระบุว่า ช่วงเดือนที่ผ่านมา เขาได้ใช้สิ่งของต่างๆ ปิดปากตัวเองตลอดทั้ง 30 วัน พร้อมเก็บบันทึกภาพและนำมาเผยแพร่ภาพสู่สาธารณะในภายหลัง เพื่อให้สังคมตั้งคำถามและเรียกร้องข้อมูลจากภาครัฐ รวมถึงขอให้เปิดพื้นที่สำหรับการถกเถียงเกี่ยวกับสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้นในประเทศ
หลายภาพในโปรเจกศิลปะการแสดง #ShutUpFor30Days ของ Brother Nut ถูกเผยแพร่ในสื่อต่างประเทศ โดยภาพหนึ่งเขาปิดปากตัวเองด้วยเทปกาว พร้อมตัวเลข 404 สื่อถึงรหัสที่ผู้สืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตในจีนแผ่นดินใหญ่มักจะพบเจออยู่บ่อยๆ เมื่อพยายามสืบค้นข้อมูลที่รัฐบาลมองว่าเป็น 'ประเด็นอ่อนไหว' คาบเกี่ยวกับความมั่นคงหรือความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคม
ผู้สืบค้นที่เจอกับเลข 404 จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ เพราะระบบจะหาหน้าเพจที่ต้องการไม่พบ
อีกภาพหนึ่ง เขาใช้คลิปโลหะหนีบรอบปาก และอีกภาพ เขาสวมหน้ากากอนามัยปิดทั้งหน้า จนมองไม่เห็นแม้ดวงตา และบนหน้ากากยังเขียนคำว่า Shut Up (หุบปาก) เอาไว้อีกด้วย
งานศิลปะการแสดง 'ปิดปาก 30 วัน' ของ Brother Nut ในปีนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจีนหยุดการปิดกั้นข้อมูลที่เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเขาอ้างอิงกรณี 'หลี่เหวินเลี่ยง' แพทย์ชาวจีนในเมืองอู่ฮั่นที่ส่งข้อความเตือนคนรู้จักเกี่ยวกับเชื้อไวรัสที่เขาตรวจพบในคนไข้จำนวนหนึ่งตั้งแต่เดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว แต่เขากลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวไปรับทราบข้อกล่าวหาว่าเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน ทำให้คนตื่นตระหนก
ท้ายที่สุด 'หลี่เหวินเลี่ยง' ก็เป็นคนหนึ่งที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และเสียชีวิตในไม่กี่เดือนต่อจากนั้น
โปรเจกต์ปิดปากฯ ของ Brother Nut ไม่ใช่ศิลปะการแสดงชุดแรกที่เขาทำออกมาเพื่อวิพากษ์ความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นในสังคมจีนแผ่นดินใหญ่
เมื่อปี 2558 The Guardian รายงานว่า เขาจัดทำศิลปะการแสดง Project Dust เพื่อให้สังคมตระหนักเรื่องปัญหาฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นในเมืองใหญ่หลายเมือง โดยเขาใช้วิธีตระเวนนำเครื่องดูดฝุ่นออกไปดูดอากาศตามจุดต่างๆ ของกรุงปักกิ่งที่มีปัญหามลพิษทางอากาศ รวมเป็นเวลา 100 วัน หลังจากนั้นจึงเอามวลฝุ่นทั้งหมดไปอัดเป็นก้อนเพื่อทำเป็นอิฐฝุ่น เพื่อสะท้อนว่าละอองฝุ่นในอากาศมีปริมาณมากเพียงใด
"ถ้าคุณถามผมว่า ศิลปินคนหนึ่งจะทำอะไรได้บ้าง ถ้ามีการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น เช่น การใช้ความรุนแรง หรือการปิดกั้นข้อมูล ปฏิกิริยาแรกของผมก็คือสู้ต่อไป ด้วยงานศิลปะ"
ส่วนปี 2561 เขาทำโครงการรณรงค์ต่อต้านการใช้โลหะหนักและเปิดโปงปัญหาแหล่งน้ำปนเปื้อนโลหะหนักในเมืองเสี่ยวเถาหู มณฑลชานซี โดยศิลปะการแสดงในครั้งนั้นของเขาใช้วิธีเชิญวงดนตรีแนว 'เฮฟวีเมทัล' มาจัดคอนเสิร์ตในเมืองดังกล่าว เพื่อเรียกร้องให้คนในสังคมและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบตระหนักถึงปัญหา 'โลหะหนัก' ปนเปื้อนตามแหล่งน้ำธรรมชาติและวิถีชีวิตของประชาชน
นอกจากนี้ เขายังใช้วิธีกรอกน้ำปนเปื้อนใส่ขวดพลาสติกจำนวนมาก และนำไปจัดแสดงให้เจ้าหน้าที่รัฐรับทราบว่าน้ำที่ได้จากแหล่งน้ำธรรมชาตินั้น 'สกปรก' เพียงใด ทำให้เขาถูกตำรวจควบคุมตัวนาน 10 วัน พร้อมทั้งยึดขวดบรรจุน้ำปนเปื้อนไป 9,000 ขวด
อย่างไรก็ตาม Brother Nut ยังมีขวดน้ำปนเปื้อนที่เก็บเอาไว้ก่อนหน้านั้นอีก 1,000 ขวด เขาจึงนำขวดเหล่านั้นใส่รถตู้ไปตระเวนจัดแสดงนิทรรศการเคลื่อนที่ตามจุดต่างๆ ในกรุงปักกิ่ง พร้อมทั้งขึ้นป้ายเชิญชวนให้ผู้คนที่สัญจรไปมาว่ามีใครกล้าลองดื่มน้ำปนเปื้อนบรรจุขวดเหล่านี้หรือไม่
การทำงานศิลปะของเขาถูกจับตามองจากเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ก็ไม่สามารถปิดกั้นเครือข่ายสื่อสังคมออนไลน์ที่มีคนอีกจำนวนมากสนับสนุนแนวคิดของเขา รวมถึงสื่อต่างชาติที่นำเสนอข้อมูลโครงการของเขาอย่างต่อเนื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: