เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 ก.ย. 2565 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วย ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย วัชรา วังขนาย ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคประชาชาติ ยื่นหนังสือขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวน 2 สำนวน คือ 1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษาฯ (อว.) กับพวก ร่วมกันกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ กรณีการอนุมัติและใช้จ่ายงบกลางจำนวน 2,054 ล้านบาทให้กับ กระทรวง อว.

และ 2. พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับพวก กรณีคดีทุจริตทำสัญญาลวงซื้อขายถุงมือยางขององค์การคลังสินค้า (อคส.) มูลค่า 112,500 ล้านบาท

โดย ประเสริฐ กล่าวว่า ในสำนวนแรก มีความไม่ชอบมาพากลตั้งแต่การขออนุมัติใช้งบกลาง เพราะขัดวัตถุประสงค์ และมีการเร่งรัดในการดำเนินการ ไม่เข้าหลักเกณฑ์การของบประมาณตามที่สำนักงบประมาณกำหนดเอาไว้ และหลังจากอนุมัติแล้ว ก็นำงบประมาณไปใช้ในทางทุจริต ไม่เป็นไปตามขอบเขตของงาน (TOR) อาทิ ความคาดหวังว่าโครงการจะสร้างงานสร้างรายได้ไม่ชัดเจน มีความซ้ำซ้อนกับโครงการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนดโครงการอบรม เป็นต้น

ส่วนสำนวนที่ 2 เป็นเรื่องของการปล่อยปละละเลย ไม่ติดตามเส้นทางการเงินขององค์การคลังสินค้าในการทำสัญญาซื้อขายรวม ซึ่งทุกวันนี้ เงินดังกล่าวถูกฟอกเงินไปแล้วเรียบร้อย ล่วงเลยมา 2 ปีกว่า ทำให้เกิดความเสียหายกับรัฐ ขอยืนยันว่า การมายื่นสำนวนทั้งสองในวันนี้เพราะสำนวนแล้วเสร็จพอดี ไม่ได้มีนัยอื่นแอบแฝงว่าประจวบเหมาะกับการพิจารณาการครบวาระ 8 ปี ของประยุทธ์ ในวันที่ 30 ก.ย. แต่อย่างใด

ด้าน ณัฐวุฒิ กล่าวเสริมว่า การอ้างว่าในการเบิกใช้งบกลางเป็นการใช้งบฉุกเฉินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในภาวะ โควิด-19 นั้น ปรากฏว่าฝ่ายค้านกลับได้รับการร้องเรียนว่า มีการให้สัญญากับประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการว่าจะได้ปัจจัยการผลิตต่างๆ มูลค่าหลักแสนบาท แต่ได้รับจริงเพียงหลักหมื่นบาทเท่านั้น ทำให้ฝ่ายค้านไม่มมั่นใจว่าเงินส่วนต่างที่เกิดขึ้นนั้นเข้ากระเป๋าใคร ขอส่งสัญญาณเตือนไปยังรัฐบาลว่า ฝ่ายค้านจะเดินหน้าตรวจสอบให้เข้มข้นยิ่งขึ้นต่อไป