ไม่พบผลการค้นหา
"อนุดิษฐ์" ชี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ควบคุมเฉพาะคนไทย แนะ "รัฐบาล" รีบทบทวนมาตรการแขกวีไอพีโดยด่วน ด้าน "การุณ" อัดรัฐไม่มีมาตรฐานทำไทยเสี่ยงระบาดรอบสอง ถามปล่อยเหตุเกิดเพราะจะต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินใช่หรือไม่

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการพบทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างเดินทางเข้าออกไทยตามเงื่อนไขพิเศษและหนีการกักตัวออกมาเดินเล่นในห้าง จนวิตกกันว่าอาจจะเป็นสาเหตุของการกลับมาแพร่ระบาดในไทยอีกครั้งนั้น เรื่องนี้เกิดจากการปฏิบัติแบบ 2 มาตรฐานของ ศบค.ที่ปล่อยปละละเลยให้แขกพิเศษหรือ VIP ไม่ต้องปฏิบัติตามกฎการควบคุมตัวเหมือนกับบุคคลทั่วๆ ไป ถือเป็นความสะเพร่าและบกพร่องอย่างร้ายแรง ที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ และต้องรีบทบทวนมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดกับแขกของประเทศให้มีมาตรฐานทางสาธารณสุขที่ถูกต้องโดยด่วน 

ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งที่ไม่มีการแพร่ระบาดในไทยมากว่า 1 เดือน โดยอ้างว่าเพื่อใช้ควบคุมการแพร่ระบาดระหว่างปลดล็อกเฟส 5 หรือระหว่างเปิดเรียนและเปิดสนามบิน มิหนำซ้ำยังให้โฆษก ศบค.ออกมาย้ำนักย้ำหนาขอให้คนไทย "การ์ดอย่าตก" ไม่เช่นนั้นอาจมีการระบาดรอบ 2 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ซึ่งประชาชนทั้งหลายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนไม่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศมาระยะหนึ่งแล้ว

การควบคุมที่เข้มข้นส่งผลให้คนไทยต้องประสบความยากลำบากอย่างหนัก เพราะการทำมาหากินภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้นมีข้อจำกัดหลายอย่าง แต่ทุกคนก็ยินดีให้ความร่วมมือ คนไทยยอมอดอยาก ยอมหยุดทำมาหากิน เพื่อปฏิบัติตามคำสั่ง ศบค.ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินของ พล.อ.ประยุทธ์มาอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่ง ศบค. และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กลับกลายเป็น ศบค.เสียเอง ที่ปล่อยให้แขกต่างชาติ และแขก วีไอพี ได้รับมาตรการยกเว้นและไม่ต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด 

"ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า การต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดแต่อย่างใด เพราะตราบใดที่รัฐบาลยังเปิดช่องให้แขกต่างชาติหรือแขกวีไอพีที่เข้ามาประเทศไทยไม่ต้องถูกกักตัวเหมือนคนทั่วไป การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ไม่มีความหมาย ตอนนี้คนไทยทั้งประเทศเข้าใจแล้วว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีไว้ใช้บังคับเฉพาะคนไทยเท่านั้น ส่วนคนที่มีอภิสิทธิ์หรือแขก VIP จากต่างชาติ ไม่จำเป็นต้องปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด ดังนั้น พ.ร.ก.ฉุกเฉินจึงเปล่าประโยชน์อย่างสิ้นเชิงในแง่ของการควบคุมโรค ยกเว้นจะเอาไว้ควบคุมคนที่วิจารณ์หรือขับไล่รัฐบาลเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้มีคนไทยหลายคนถูกดำเนินคดีเพราะผิด พรก.ฉุกเฉิน ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดเลยแม้แต่น้อย" น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่ออีกว่า นอกเหนือจากที่รัฐบาลต้องกำหนดมาตรการควบคุมโรคแก่แขกวีไอพีใหม่หมดทั้งระบบแล้ว สิ่งที่รัฐบาลควรดำเนินการอย่างฉุกเฉินเร่งด่วนไม่ใช่กฎหมายควบคุมเชื้อโรค แต่เป็นเรื่องการออกมาตรการแก้เศรษฐกิจ ที่ผู้ประกอบการภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งนักลงทุน นักธุรกิจทั่วๆ ไป กำลังรอการตัดสินใจจาก พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ว่าจะเอาอย่างไรกันแน่กับมาตรการฟื้นฟู เพราะตอนนี้ตัวเลขเศรษฐกิจดิ่งเหวลงทุกด้าน ยังไม่นับคนตกงาน ว่างงานกว่า 10 ล้านคน รวมทั้งโรงงาน กิจการห้างร้านต่างๆ ที่ทยอยปิดตัวอย่างต่อเนื่อง โดยยังไม่มีสัญญาณใดใดจากรัฐบาลเลยว่า จะทำอย่างไรกับวิกฤตการณ์เหล่านี้

"การุณ" อัดรัฐไม่มีมาตรฐาน ถามปล่อยเหตุเกิดเพราะจะต่อ พรก.ฉุกเฉินใช่ไหม

ด้าน นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า กรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ชาวต่างชาติที่ระยองและกรุงเทพฯ ได้สร้างความหวั่นวิตกให้กับคนไทยทั้งประเทศ เพราะเกรงว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาด้วยการนำประเทศไทยจะกลับไปสู่การล็อกดาวน์อีกครั้ง เพราะหากเป็นเช่นนั้นคนไทยทั้งประเทศคงลำบากกว่านี้ เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันแม้จะมีการคลายล็อกดาวน์แล้ว แต่สภาพเศรษฐกิจส่วนรวมก็ยังไม่ดีขึ้น

นอกจากนี้ การที่รัฐบาลเปิดทางให้กลุ่มบุคคลวีไอพีและทหารจากต่างประเทศเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว 14 วันตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. โดยอ้างว่าสามารถเข้าประเทศไทยได้ ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในการสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 6) โดยจัดอยู่ในกลุ่มผู้ควบคุมยานพาหนะ ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรตามภารกิจ และมีมาตรการรองรับในการกำกับดูแลนั้น ปรากฏว่ารัฐบาลกลับไม่สามารถควบคุมผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศได้

การปล่อยปละละเลยเช่นนี้ ยิ่งชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลไม่มีมาตรฐาน เพราะขณะที่คนในรัฐบาลออกมาขู่ประชาชนผ่านทีวีทุกวันว่า "การ์ดอย่าตก" ต้องเฝ้าระวัง ระวังไวรัสโควิด-19 จะกลับมาระบาดรอบ 2 และขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของ ศบค. ในทางกลับกันรัฐกลับปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอย่างสะเพร่าและมักง่าย

ซึ่งคนไทยทุกคนตระหนักถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น มีการป้องกันตัวเองตลอดเวลา แต่รัฐบาลกลับอนุญาตและนำโรคร้ายเข้ามาสู่ประเทศไทยโดยไม่มีการควบคุมเสียเอง ทุกคนเข้าใจดีว่ารัฐบาลต้องต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง แต่การไม่คัดกรองและควบคุมชาวต่างชาติที่เข้าประเทศตามมาตรการสาธารณสุขที่ถูกต้อง เป็นเรื่องที่คนไทยทั้งประเทศยอมรับไม่ได้ และการอ้างว่าเนื่องจากเป็นแขกของรัฐบาล จึงไม่ต้องทำตามมาตรการป้องกันเฝ้าระวังเหมือนคนทั่วไป ยิ่งยอมรับไม่ได้มากขึ้นไปอีก ผลแห่งการกระทำครั้งนี้ทำให้จังหวัดระยอง ต้องปิดห้าง ปิดโรงแรม ปิดโรงเรียน ซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมทุกข์ให้กับประชาชน

"ส่วนกรณีที่มีผู้ติดเชื้อมาเดินช็อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง เป็นหน้าที่ที่รัฐต้องรีบแจ้งข้อมูลให้ประชาชนทราบโดยเร็ว เพื่อให้ทุกคนป้องกันตัวเองและปฏิบัติตัวตามมาตรฐานสาธารณสุขโดยไม่ประมาท แต่การที่รัฐบาลปล่อยให้เหตุการณ์บานปลายแบบนี้ จึงทำให้คนส่วนใหญ่อดคิดไม่ได้ว่า รัฐบาลจงใจใช้เหตุการณ์นี้เพื่อหาเรื่องต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีกใช่หรือไม่" นายการุณ กล่าว