ต่างประเทศ
บล็อกเกอร์ผู้เห็นต่างถูกอุ้มในปทุมธานี ก่อนปรากฏตัวอีกทีในคุกเวียดนามบ้านเกิด
มีรายงานระบุว่า ไทหายตัวไปจากถนนในจังหวัดปทุมธานีของประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ นักเคลื่อนไหวที่รู้จักกับไท ได้ลงพื้นที่หลายวันต่อมาเพื่อค้นหาเบาะแส โดยพวกเขาพยายามติดตามวิดีโอของระบบกล้องวงจรปิดรักษาความปลอดภัย และสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ ก่อนจะพบว่ามีการลักพาตัวไทเกิดขึ้นจริงในประเทศไทย
“มีชายคนหนึ่งบอกเราว่ามีรถสีขาว 2 คันเข้ามาจอดขวางมอเตอร์ไซค์ของไทวันเดือง คันหนึ่งอยู่ด้านหน้าและอีกคันอยู่ด้านหลัง” เกรซ บุย นักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนเชื้อสายเวียดนาม-สหรัฐฯ กล่าว “พวกเขาหยุดรถมอเตอร์ไซค์ของเขา และผู้คนก็กระโดดออกมาแล้วพาเขาเข้าไปในรถ และเลียนแบบเสียงกรีดร้องของไทวันเดือง เหมือนกับที่เราได้ยินจากวิดีโอ”
ไทซึ่งปัจจุบันอายุ 41 ปี ลี้ภัยทางการเมืองมายังประเทศไทยเมื่อปี 2562 หลังเขามีความกังวลว่าตัวเองอาจถูกปราบปรามในทางการเมือง จากการเผยแพร่โพสต์และวิดีโอมากมาย ที่มีเนื้อวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเวียดนามและผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์บนเฟซบุ๊กและยูทูป ทั้งนี้ ไทได้ยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัยกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ในกรุงเทพฯ
กลุ่มเพื่อนของไทรู้ว่าเขาหายไปในวันที่ 13 เม.ย. หลังจากไทไม่รับสายโทรศัพท์มือถือในวันเดียวกันนั้นเอง โดยต่อมาเมื่อวันที่ 16 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดห่าติ๋ญของเวียดนามกล่าวว่า ไทได้เดินทางเข้ามาในเวียดนามผ่านทางเส้นทางที่ติดกับชายแดนลาว แต่เพื่อนชาวไทยยืนยันว่า ไทน่าจะถูกกองกำลังความมั่นคงของเวียดนามลักพาตัวและนำกลับเวียดนามไป ท่ามกลางสถานการณ์ที่รัฐบาลเวียดนามยังคงจับกุม ลงโทษ และคุมขังผู้เห็นต่างและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง
หลังจากการหายตัวไปของไทในจังหวัดปทุมธานีเมื่อกลางเดือนก่อน ปัจจุบันนี้ ไทถูกจองจำอยู่ในอำเภอเฮืองเซิน จังหวัดห่าติ๋ญของเวียดนาม แม้จะมีข่าวหนาหูเกี่ยวกับการจับกุมตัวไท แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเวียดนามยังไม่ได้ให้ข้อมูลความเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะของไทในตอนนี้
ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียของฮิวแมนไรท์วอทช์ ระบุกับ Radio Free Asia ว่า เป็นเวลาหลายสิบปีแล้วที่ประเทศไทยเป็นที่หลบภัยอย่างไม่เป็นทางการ สำหรับผู้ลี้ภัยทางการเมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และใกล้เคียง โดยโรเบิร์ตสันกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขากลัวว่ากรณีที่เกิดขึ้นในไทยต่อไทในครั้งนี้ จะเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า มีการเกิดกรณี “ผลัดสลับตัว” ผู้ลี้ภัยที่มีอยู่จริงระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีระบอบการปกครองอันกดขี่ เช่น เวียดนาม กัมพูชา และลาว
“ไม่น่าเป็นไปได้อย่างยิ่ง ที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลเวียดนามจะเข้ามาในประเทศไทย และจับกุมผู้เห็นต่างโดยที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของไทยไม่ทราบเรื่องนี้ และทำเป็นมองไม่เห็นเรื่องดังกล่าว” โรเบิร์ตสันกล่าว พร้อมระบุเสริมว่า มีการแจ้งความคนหายจากการหายตัวไปของไทต่อสถานีตำรวจธัญบุรีของพื้นที่ปทุมธานีแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยกลับไม่ได้ดำเนินการติดตามเรื่องมากนัก
“ชายคนหนึ่งถูกลักพาตัวไปในย่านชุมชน ซึ่งเป็นการกระทำที่เรียกได้ว่าไร้ยางอาย ละเมิดสิทธิ และทางการไทยควรจัดการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดและรายงานสิ่งที่พวกเขาพบ” โรเบิร์ตสันกล่าว
ที่มา:
