ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ย้ำไม่มีใครอยากทำรัฐประหาร แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดขึ้น มองข้อเสนอ 'อานันท์' เป็นความเห็นส่วนตัว ยืนยันฟังทุกฝ่าย เชื่อเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย 31 ต.ค.นี้ได้ ขออย่าละเมิดสถาบัน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุถึงกรณีที่อานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงความคิดเห็นขอให้ฟังเสียงของผู้ชุมนุม ว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของอดีตนายกฯ ขอยืนยันว่าที่ผ่านมารับฟังโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นจากสื่อโซเชียลหรือรัฐสภา รับฟังข้อมูลจากการประชุมสภาสมัยวิสามัญที่ผ่านมาซึ่งมี ส.ส. บางคนนำข้อมูลจากการชุมนุมมาพูดในสภา

ดังนั้น ถือว่า กระบวนการในสภาได้มีการพูดคุยจบไปแล้ว หลังจากนี้คือการตั้งคณะกรรมการศึกษาว่าข้อเสนอใดเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้โดยยึดตามหลักการของกฎหมายและรัฐธรรมนูญประกาศใช้จนถึงปัจจุบันนี้และในอนาคตจะมีการแก้ไขก็จะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง


ย้ำไม่มีใครอยากทำรัฐประหาร แต่ไม่การันตี

ส่วนที่มีบางฝ่ายเสนอทางออกให้ใช้การรัฐประหารแก้ปัญหาการเมืองในขณะนี้ว่า ต้องไปถามคนที่เสนอความคิดเห็น เพราะโดยส่วนตัวไม่เคยคิดเรื่องเหล่านี้ ดังนั้น ต้องระมัดระวังไม่ให้สถานการณ์บานปลายออกไป ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะมีหรือไม่มีการรัฐประหารเกิดขึ้น แต่ย้ำว่าไม่มีใครอยากทำการรัฐประหาร

นายกรัฐมนตรี ยังระบุถึงกรณีที่บางพรรคการเมืองจะไม่เข้าร่วมในคณะกรรมการสมานฉันท์ ว่า ได้เห็นตามสื่อที่มีการวิจารณ์ว่าเป็นการยื้อเวลา แต่ขอย้ำว่าคณะกรรมการสมานฉันท์เป็นไปตามกลไกของรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็จะต้องเคารพเสียงส่วนใหญ่ของคนทั้งประเทศ

ดังนั้น จึงขอให้กลับไปทบทวนว่าเหมาะสมหรือไม่ หากจะไม่เข้าร่วม เพราะหากไม่เข้าร่วมคณะกรรมการชุดนี้ จะเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปเพื่ออะไร ทั้งที่เป็น ส.ส. ต้องทำหน้าที่เป็นผู้แทนประชาชนในการสะท้อนความคิดทุกกลุ่มทุกฝ่ายไม่ใช่เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง การกดดันในเรื่องดังกล่าวจึงถือว่าไม่ถูกต้อง โดยย้อนถามว่าประชาธิปไตยไทยเป็นอย่างนี้หรือ ไม่ขอออกความคิดเห็น แต่ต้องไปดูที่เจตนา 

ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะมีการยกระดับการชุมนุมนั้น นายกรัฐมนตรีตรี ย้ำว่า หากทำได้ก็ทำไป แต่ขอให้สังคมและประชาชนช่วยดูแลกันในเรื่องเหล่านี้ด้วย เพราะผลกระทบจะอยู่ที่ประชาชน ทั้งการจราจร และการขนส่งสินค้า ซึ่งจะเป็นปัญหาทั้งหมด พร้อมย้ำว่า ไม่ควรเคลื่อนไหวกระทำในพื้นที่สาธารณะ เพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้งต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่า การชุมนุมก็ต้องทำในลักษณะนี้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องบังคับใช้กฎหมายให้เกิดความเป็นธรรมหากมีการกระทำความผิดก็ต้องดำเนินการ ก็ต้องขอให้ผู้ชุมนุมเข้าใจในจุดนี้ด้วย พร้อมย้ำว่า การชุมนุมไม่ได้เป็นผลดีกับใครทั้งสิ้น 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ถ้าดีก็ควรไม่ทำในพื้นที่สาธารณะ เพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหา เพราะไม่เช่นนั้นก็จะเกิดความขัดแย้งต่อไปเรื่อยๆ ถึงแม้จะเข้าใจว่าการชุมนุม​ต้องทำแบบนี้ แต่ทุกคนต้องระมัดระวัง โดยเจ้าหน้าที่ก็ต้องระมัดระวังในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม จะมาบอกว่ากฎหมายไม่มีความเป็นธรรมไม่ได้ ซึ่งหากไม่มีความผิด เจ้าหน้าที่ก็คงไม่ต้องบังคับใช้กฎหมาย และขอร้องอย่าทำให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย เพราะไม่มีผลดีต่อใคร ประเทศชาติก็หักพังไปเรื่อยๆ


เชื่อ จนท.ดูแลการชุมนุม 31 ต.ค.นี้ได้

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมจะจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวในวันที่ 31 ต.ค. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในระหว่างที่มีพิธีพระราชทานปริญญาบัตรว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการหน้าที่ตามระเบียบปฏิบัติประจำอยู่แล้วตามกฎหมาย และพิธีพระราชทานปริญญาบัตรก็เป็นพระราชกรณียกิจที่มีมายาวนานตามธรรมเนียมประเพณี 

ทั้งนี้ เชื่อว่า เจ้าหน้าที่จะสามารถดูแลให้เกิดความเรียบร้อย และระมัดระวังไม่ให้เกิดอันตรายและไม่ให้มีการละเมิดสถาบัน


เปิดงาน 'สวัสดีข้าวสาร' ปรับโฉมกระตุ้น ศก.

พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจ 'สวัสดีข้าวสาร' ณ ถนนข้าวสาร โดยทันทีที่ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงถนนข้าวสาร ได้ทักทายพ่อค้าแม่ค้าและประชาชน โดยอวยพรขอให้ขายดี 

ขณะที่ประชาชน ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ขอให้นายกฯสู้ๆ จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ทักทายกับนักศึกษา ว่า เรียนที่ไหน พร้อมบอกว่า ให้ช่วย ๆ กันนะ ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะแวะฟังดนตรีสด โดยนักดนตรีได้ร้องและมอบเพลง “Your are my sunshine” ให้นายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรี ยืนฟังและฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี

เสก_ถ.ข้าวสาร_201030.jpg

นายกรัฐมตรี กล่าวเปิดงานว่า ขอขอบคุณที่ร่วมกันทำสิ่งดีๆให้กับประเทศไทย ซึ่งในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด ไทยได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการ แต่ยังสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ จึงขอให้ทุกคนระวังช่วยกันเชื่อฟังมาตรการทางสาธารณสุข

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ถนนข้าวสารเป็นถนนที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน และได้มีการจัดระเบียบต่างๆให้ดูสวยงาม แม้วันนี้ โควิด-19 จะทำให้เกิดวิกฤติและโอกาส เช่น การล็อกดาว ทำให้ไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ จึงต้องดึงดูดเรื่องการท่องเที่ยวให้มากขึ้น เพิ่มการใช้จ่ายในระบบ คนมีมากก็ใช้มาก คนไม่มีเงินก็ใช้น้อย  

อีกทั้งวันนี้ต้องแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ต้องเตรียมความพร้อม มาตรการรับมือนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศ ต้องไปดูเรื่องการท่องเที่ยว ไม่ใช่ว่ารัฐบาลเอาเงินไปช่วยคนรวย แต่ต้องการให้งบประมาณหมุนเวียน ในเศรษฐกิจฐานราก เพื่อให้เกิดการจ้างงาน และให้ความสำคัญกับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท ย้ำรัฐบาลเห็นใจผู้มีรายได้น้อย

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนไม่รู้จะพูดอะไรเพราพรู้สึกตื้นตัน และรู้สึกดีทุกครั้ง มีความสุขที่เจอสิ่งดีๆ นี่คือประเทศไทย ทุกคนมีรอยยิ้มให้กัน และต้องมี 3 สิ่งคือ อาหาร รอยยิ้ม ธรรมชาติ คือ สมรรถภาพของประเทศไทย อย่าทำลาย สามสิ่งนี้โดยเด็ดขาดโดยเฉพาะจิตใจการให้บริการ เราแบ่งแยกกันไม่ได้ แตกต่างกันมาก แต่ต้องอยู่ร่วมกันได้ และขอให้ทุกคนเตรียมความพร้อมเรื่องการเปิดประเทศ หากสถานการณ์ดีขึ้น มีวัคซีน ทุกอย่างแก้ไขได้ แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังการระบาดรอบ2 วันนี้โชคดีที่ทุกคนร่วมมือกัน แต่ขออย่าประมาท 

เสก_ถ_0.ข้าวสาร_201030.jpg

นายกรัฐมนตรี ย้ำ สิ่งสำคัญเราต้องสร้างสตอรี่ เรื่องราว ซึ่งเรามีประวัติศาสตร์ โดยเอาสิ่งดีๆ ให้จดจำ เรามีประวัติศาสตร์เป็นเล่มๆ แต่ก็พยายามตัดทอนออกไปตนว่ามันไม่ใช่ ต้องร่วมกันเดินหน้าต่อไปในสิ่งที่ดีๆ ส่วนสิ่งที่ไม่ดีอย่าทำ เพื่อเดินหน้ากันต่อไป ซึ่งวันนี้อยากให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ช่วยถนนข้าวสารและหลายพื้นที่ ซึ่งขอให้ทุกคนช่วยกัน นี่คือประเทศไทยของใครของตนคนเดียวหรือไม่ แต่ประเทศไทยเป็นของทุกคน บ้านเมืองเป็นของเรา ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ ประชาชน และทุกคน เราเกิดที่นี่และตายไปตามวัฏจักรชีวิต เกิดและตายกันแบบนี้ และมีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งสถาบันไม่ใช่แค่วันนี้ แต่สถาบันมียาวนานจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นต้องสืบสาน รักษาและต่อยอด ตนขอฝากแค่นี้ และขอช่วยกันส่งรอยยิ้มๆ กว้างให้นายกฯ เห็นหน่อยได้หรือไม่ ยิ้มด้วยความจริงใจ ยิ้มด้วยหัวใจ เป็นรอยยิ้มตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคตต่อไป

เสก_ถ_2.ข้าวสาร_201030.jpgเสก_ถ_3.ข้าวสาร_201030.jpg

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เปิดฝาถังข้าวสาร ถือเป็นสัญลักษณ์ของการจัดงานบนถนนข้าวสาร และเยี่ยมชมร้านค้าผู้ประกอบการบริเวณถนนข้าวสาร และสินค้า Bangkok Brand โดยนายกรัฐมนตรี ได้โชว์ฝีมือ ทำผัดไทย ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของถนนข้าวสาร พร้อมให้กำลังใจผู้ค้า โดยบอกว่า “ขอให้ขายดีๆ”  

ขณะที่พ่อค้าแม่ค้า และประชาชนที่มาถนนข้าวสารต่างตะโกนให้กำลังใจ โดยขอให้นายกรัฐมนตรี สู้ ๆ ตลอดถนนข้าวสาร

เสก_ถ_1.ข้าวสาร_201030.jpg


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :