ไม่พบผลการค้นหา
โลกทวิตเตอร์ทวีตคลิปผู้สอนรายหนึ่งเล่าเหตุการณ์ม็อบในอดีต พูดให้ข้อมูลด้านเดียว บอก ‘ประยุทธ์’ ออกมาทำรัฐประหาร ช่วงประเทศท่ามกลางการเมืองวุ่นวาย เศรษฐกิจพัง

สังคมออนไลน์ ทวีตแฉคลิปการสอนหนังสือของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ครูผู้สอนให้ความรู้การทำรัฐประหารของ 'พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา' ขณะเป็นผู้บัญชาการทหารบก ว่า เป็นการเข้ามาแก้ปัญหาสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังวุ่นวายในขณะนั้น 

โดยคลิปวิดีโอดังกล่าว เป็นเหตุการณ์ภายในห้องเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งตามแฮชแท็ก #โรงเรียนชายล้วนย่านบางรัก เผยเหตุการณ์ขณะครูผู้สอนกำลังบรรยายเหตุการณ์ม็อบเสื้อเหลือง-เสื้อแดงออกมาตีกัน จนทำให้ 'ดร.ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นอยู่ประเทศไทยไม่ได้ เพราะจับได้ว่าโกงกิน

ทั้งนี้ระหว่างการบรรยายอยู่นั้นเหมือนมีเสียงของนักเรียนในชั้นต้องการโต้แย้ง แต่ผู้สอนกลับพูดว่า "ครูพูดอย่างเดียว"

ครูคนดังกล่าวยังเล่าต่อว่า หลังจากนั้นก็เกิดม็อบอีกหลายม็อบ และล่าสุดมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ปิดทองหลังพระ เข้ามาขณะนั้นประเทศเข้าขั้นวิกฤติ ธุรกิจกำลังจะพัง

นอกจากนี้ ผู้สอนยังบอกอีกว่า เหตุการณ์ในช่วงนั้นมีการเผาบ้านเมือง ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเข้ามายึด แต่คนที่ต่อต้านที่อยู่ฝั่ง 'ดร.ทักษิณ' ที่พยายามปลุกกระแสว่า 'ประยุทธ์' ไม่ดี ทั้งที่เขาเข้ามาช่วยไว้ การโทษเศรษฐกิจไม่ดีนั้นไม่จริง เพราะเศรษฐกิจทั่วโลกก็ไม่ดี และเนื้อหาบางส่วนนั้นยังกล่าวถึงผู้ที่ลี้ภัยต่างประเทศหลายคนในวอชิงตันที่ตอนนี้ทำตัวเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับเยาวชนเพื่อออกมาต่อต้านสถาบัน

ภายหลังจากคลิปนี้เผยแพร่ในทวิตเตอร์ มีผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น ว่าครูน่าจะหาข้อมูลให้มากกว่านี้ เป็นการป้อนข้อมูลให้นักเรียนเพียงด้านเดียว 

ผู้ใช้ทวิตเตอร์บางรายหาข้อมูลมาแย้งกับสิ่งที่ผู้สอนพูดในคลิปว่า ตอนนั้น ดร.ทักษิณ ไม่ได้หนีไปต่างประเทศ เพียงแค่ไปทำงานในฐานะนายกรัฐมนตรีในตอนนั้น แต่โดนคณะทหารภายในประเทศยึดอำนาจไป เหตุเกิดตอนปี 2549 และที่เด็กนั่งฟังเฉยๆ คือกำลังแกล้งไม่รู้เท่านั้น แต่ตลกคือ การที่ผู้สอนพยายามเอาสิ่งที่ตัวเองคิด ตัวเองเชื่อมายัดให้กับเด็กนักเรียน แต่ลืมไปแล้วว่ายุคนี้นักเรียนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายกว่ายุคก่อนมาก 

พร้อมกันนี้ชาวทวิตเตอร์ยังแนะนำให้กับครูที่ต้องสอนหนังสือในโรงเรียนว่า จริงๆ แล้วครูควรสอนให้เด็กเป็นกลาง ให้เขาสามารถคิดเองได้ว่าจะเลือกอยู่ข้างไหน หรืออยากเชื่อข้อมูลชุดใด

นอกจากนั้นยังมี แฮชแท็ก #ประวัติศาสตร์ปลดแอก เพื่อต้องการรณรงค์ให้หนังสือประวัติศาสตร์ที่สอนในโรงเรียนควรมีการปรับปรุงเนื้อหาใหม่