วันที่ 27 ก.ค. ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง เปิดเผยหลักฐานการดีลจัดตั้งรัฐบาล โดยมีเบื้องหลังคือการเดินทางกลับเมืองไทยของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล รวมพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรคอื่นๆ ทั้งหมด 279 เสียง โดยชู ‘เศรษฐา ทวีสิน’ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนพรรคฝ่ายค้านประกอบด้วย พรรคก้าวไกล พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 221 เสียง
ซึ่งสูตร 279 คือสูตรสำเร็จ แต่จะเป็นสูตร ‘ปล้นคะแนนประชาชน’ เป็นการยืมมือพรรคภูมิใจไทยในการสลัดพรรคก้าวไกลออกจากพรรคเพื่อไทย เพราะทั้งสองพรรคถูกผูกมัดกันด้วยมวลชน ก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้านที่ชัดเจน สวนกระแสกับมติที่ประชาชนเลือก เพราะที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลจะตกกระแสทั้งหมด ทั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร นายกฯ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนฯ
ชูวิทย์ กล่าวอีกว่า การกลับมาของ ทักษิณ มีความหมายหลายประการ เพราะ ทักษิณ อายุ 74 ปีบริบูรณ์ โดยตามกฎหมายคนอายุเกิน 70 ปี โดยหลักการ เมื่อเข้าคุกแม้กระทั่งชั่วโมงเดียว หรือ 1 วัน ก็สามารถยื่นขอพระราชอภัยโทษได้ เพราะเป็นสิทธิ์ของนักโทษอายุมาก แต่การยื่นไม่สามารถยื่นก่อนได้ และคนที่มียศทางตำรวจ หรือทางทหารก็ต้องสละยศเสียก่อน
แม้ว่า สูตรที่พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะทำให้พรรคก้าวไกลไม่สามารถรับได้ จึงทำให้มีการยื่นข้อเสนอว่า จะร่วมโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย แต่ต้องไม่มี 2 ลุง (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และพรรคก้าวไกลจะถอยไปเป็นฝ่ายค้าน
โดยมั่นใจว่า พล.อ.ประวิตร จะวางมือทางการเมือง และสละเส้นทางการเมืองให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชาย ร่วมเก้าอี้ ครม. โดยเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะเป็นกระทรวงที่ทางฝ่าย พล.อ.ประวิตร นั้นคาดหวัง
ชูวิทย์ ยืนยันอีกว่า ประเทศไทยจะมีนายกฯ และครม. ชุดใหม่ไม่เกิน 15 ส.ค. แน่นอน อีกทั้งเมื่อ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ เป็นนายกฯ จึงตั้งคำถามว่า นายกฯ คนใหม่ของประเทศไทยมีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์จริงหรือไม่ ซึ่ง เศรษฐา นั้นมี ‘ขงเบ้ง’ หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ฉายา ‘มาสเตอร์มายด์’ ซึ่งเป็นที่รู้จักในแวดวงอสังหาริมทรัพย์
“มั่นใจว่าไม่ได้มีเจตนาร้าย หรือไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวกับเศรษฐา แต่มองว่า เป็นการทำเพื่อบ้านเมือง เพราะนายกฯ ต้องเป็นไปตาม ม.160 ในรัฐธรรมนูญ มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ไม่ใช่ทำการซ่อนเร้นอำพราง เพราะสิ่งที่พ่อค้าในตลาดหลักทรัพย์ทำ แม้จะผิดกฎหมาย แต่สปอร์ตไลท์มันส่องไม่ถึง แต่ในฐานะนายกฯ สปอร์ตไลท์มันจ้ากว่านั้นมาก” ชูวิทย์ กล่าว
ส่วนที่มีการตั้งคำถามจาก อดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่มองว่า ชูวิทย์ ตั้งเป้าเศรษฐาเพราะรับใบสั่งมานั้น ชูวิทย์ กล่าวว่า “อดิศร เป็นแค่คนสีซอปากเปล่า มันคนละอย่างกับผม เพราะผมเวลาพูด ไม่ได้พูดปากเปล่า แต่มีข้อมูลที่ชัดเจนจากกรมสรรพากร หรือกระทรวงการคลัง และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับที่ดิน”
ทั้งนี้ ชูวิทย์ ประมาณการว่า มีโอกาสกว่า 80% ที่ทักษิณ จะกลับไทย แต่อยู่ในสถานะตัวประกัน และผู้คุมเกม โดยที่ทักษิณกลับมาแล้วจะต้องเป็นตัวประกันก่อนแล้วค่อยเป็นผู้คุมเกม ซึ่งฝ่ายความมั่นคงจะไปรับ และมีกระบวนการในห้องรับรอง รวมถึงมีการเตรียมเอกสารขั้นตอนต่างๆ แต่ถ้าจะให้คิดแบบชาวบ้านคือ “กลับเวลาอื่นได้ไหม” เพราะนั่นคือการวางแผนซูเปอร์ดีล อีกทั้งมั่นใจว่า ขณะนี้ ทักษิณ เดินทางมาพักอยู่ที่ประเทศกัมพูชา เพื่อรอคอยวันที่ 10 ส.ค. สำหรับการเดินทางกลับมายังประเทศไทยเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป