นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวถึงขั้นตอนการยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ให้พิจารณาว่ารัฐบาลทำผิดรัฐธรรมนูญหรือผิดจริยธรรมหรือไม่ ว่า 7 พรรคฝ่ายค้านได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อร่างคำร้องต่อ ป.ป.ช. โดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล ฝ่ายกฎหมายพรรรคเพื่อไทย เป็นประธานคณะทำงาน โดยจะมีการประชุมกันในวันจันทร์และอังคารที่จะถึงนี้ และจะยื่นต่อ ป.ป.ช. ก่อนเปิดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ในวันที่ 17 ตุลาคมนี้
นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคประชาชาติยังเปิดเผยว่า อาจจะยื่นเป็น 2-3 คำร้อง โดย คำร้องแรกจะรวมประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ แต่เกรงว่า ป.ป.ช. จะใช้คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญมาเป็นเหตุผลไม่รับคำร้อง อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ฝ่ายกฎหมายของฝ่ายค้านมีข้อโต้แย้งอยู่หลายประเด็น
ส่วนคำร้องที่สองอาจไม่มีประเด็นถวายสัตย์ฯ แต่เป็นการแถลงนโยบายโดยไม่บอกที่มาของงบประมาณและการแต่งตั้งบุคคลที่มีปัญหา มีคดีติดตัว และอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญและขัดจริยธรรม ซึ่งตนยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มาก เนื่องจากฝ่ายกฎหมายกำลังหารือกันอยู่
นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงว่า ไม่มีข้อกำหนดว่าสามารถยื่น ป.ป.ช. ได้กี่คำร้อง ซึ่ง 7 พรรคฝ่ายค้านจะเน้นที่เรื่องที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีขัดรัฐธรรมนูญในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะมาตรา 219 ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องจริยธรรมอย่างมาก ทุกคนต้องอยู่ในมาตรฐานจริยธรรมถ้ากระทำผิดร้ายแรงก็ต้องออกจากตำแหน่ง หรือไม่ร้ายแรง แต่มีผลต่อประชาชนหรือสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติก็สามารถยกมาเป็นเรื่องร้ายแรงได้ได้ ถ้าไปประตูนี้ไม่ได้ก็มีอีกประตู
“นายกฯ ทำผิดรัฐธรรมนูญหลายประการ เช่น การแถลงนโยบายต้องมีที่มาที่ไปของงบประมาณ ที่ไปตอบในสภาวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ก็ไม่พูดตรงๆ บางทีมองเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ขัดจริยธรรมเป็นเรื่องร้ายแรง เราอยากพิสูจน์ว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 ที่เน้นเรื่องจริยธรรมจะมีผลต่อการปฏิบัติจริงหรือไม่ เพราะถ้าหากเน้นทางด้านจริยธรรมจริง พฤติกรรมทางการเมืองจะดีขึ้น”
ส่วนกรณีที่รัฐบาลงบประมาณซื้อยุทโธปกรณ์จำนวนมากในช่วงนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ชาวบ้านเดือดร้อน แต่ก็ยังเอางบประมาณไปซื้อยุทโธปกรณ์ ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะไปรบกับใคร ศัตรูที่แท้จริงความยากจนและปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นหลัก แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ฝ่ายค้านต้องต่อสู้คือผู้นำขาดจริยธรรม