การเมือง
ป.ป.ช. ให้โอกาส 'ปารีณา' ชี้แจง 2 ข้อกล่าวหาใน 15 วัน - เจ้าตัวมั่นใจแจงได้ทุกประเด็น
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. 'นิวัติไชย เกษมมงคล' รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เปิดเผยว่า ป.ป.ช. ได้แจ้งข้อกล่าวหา ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กรณีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ และคดีบุกที่ดินป่าสงวนเเห่งชาติ จ.ราชบุรี โดยผลการตรวจสอบการเเสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเชิงลึกพบว่า ปารีณา แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยเฉพาะรายการครอบครองทั้งที่ดินแปลงอื่นและแปลงที่มีปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่มีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินจำนวน 1,741 ไร่ และยังมีรายการทรัพย์สินอื่นที่เป็นเท็จ โดยขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่ถึงที่สุด
ทั้งนี้ ทาง ป.ป.ช.จะส่งหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาไปยัง ปารีณา เพื่อให้มาชี้แจงข้อกล่าวหา ภายใน 15 วัน โดยสามารถมาชี้แจงด้วยตนเองหรือส่งเป็นหนังสือมาก็ได้ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้นำมาพยานมาชี้แจงหรือให้ ป.ป.ช. ทำการไต่สวนพยานเพิ่มเติม โดยหลังการชี้แจงทางคณะกรรมการไต่สวนจะสรุปรายละเอียดเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. หากพบว่าข้อกล่าวหามีมูลจะส่งคำร้องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
โดยเมื่อศาลประทับรับคำร้อง ปารีณา ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ตามกฎหมาย แต่ก็ยังสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล และหากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง ปารีณาจะต้องพ้นจากตำแหน่งนับตั้งแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยความผิดของการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามกฎหมายมีโทษเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เป็นเวลาไม่เกิน 10 ปี ขึ้นอยู่กับดุลพิจของศาล และหากพิสูจน์ได้ว่ามีเจตนาไม่ชี้ช่องเบาะแสของรายการทรัพย์สินนั้นๆ ก็จะมีคว ลามผิดทางอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนกรณีการครอบครอบที่ดินฟาร์มไก่ เขาสนฟาร์ม หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ของ น.ส.ปารีณา ที่มีการแจ้งสิทธิ ภทบ.5 ครอบครองจำนวน 1,741 ไร่ ไว้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช.ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก.ลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้ว ยืนยันว่ามีการบุกรุกที่หลวงชัดเจน
ทั้งนี้ คณะกรรมการไต่สวนมีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาต่อ ปารีณา ว่ามีความผิดทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงในการครอบครองที่ดิน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ ปารีณา มาชี้แจง ข้อกล่าวหา ก่อนที่จะส่งข้อมูลทั้งหมดให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช.วินิจฉัย หากพบว่ามีมูลก็จะส่งคำร้องต่อศาลฎีกาให้วินิจฉัย ซึ่งหากศาลตัดสินพบว่ามีความผิด ก็จะมีโทษเช่นเดียวกับการแสดงทรัพย์สินเป็นเท็จ
ส่วนคดีอาญา ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องกลับไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งขณะนี้ยังมีหลักฐานชี้ว่าเป็นความผิดส่วนบุคคลไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการครอบครองที่ดินที่ป่าสงวนแห่งชาติ
นอกจากนี้ ทาง ป.ป.ช.จะทำการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐว่ามีการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ในการไม่ตรวจสอบการครอบครองที่ดินของปารีณาหรือไม่ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องจะดำเนินการในข้อหาผิดจริยธรรมร้ายแรงต่อไป และจะตรวจสอบปารีณา ว่ามีการใช้ตำแหน่งหน้าที่ ส.ส. เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบที่ดินหรือไม่
'ปารีณา' ยืนยันไม่ได้แจ้งข้อมูลเท็จ มั่นใจแจง ป.ป.ช.ได้ทุกประเด็น
ขณะเดียวกัน ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยทศพล เพ็งส้ม ทนายความ ชี้แจงกรณี ป.ป.ช.มีมติแจ้งข้อกล่าวหาใน 2 ข้อหา คือจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ และกระทำความผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงกรณีครอบครองพื้นที่ป่าสงวน
โดยประเด็นบัญชีทรัพย์สิน ทศพล ชี้แจงว่า กรณีหนี้สินนั้นมีการกู้ยืมเงินจากปารีณาจริง แต่เนื่องจากคู่กรณีไม่ยอมรับว่าเป็นหนี้ เพราะไม่ต้องการชำระหนี้ ทำให้ ป.ป.ช.มีข้อมูลแค่ด้านเดียว จึงต้องเข้าชี้แจงเพิ่มเติม ว่าขณะนี้ปารีณากับคู่กรณียังมีการฟ้องร้องกันในชั้นศาล และคดีความยังไม่สิ้นสุด
ส่วนเรื่องทรัพย์สินที่เป็นพระเครื่องนั้น เป็นทรัพย์ที่ได้จากสามี ซึ่งได้แจ้งราคาไปตามที่สามีบอกไว้ในครั้งแรก โดยอ้างอิงจากบัญชีทรัพย์สินเดิม ปี 2556 พร้อมยืนยันว่าขณะนี้ยังเก็บเพื่อเป็นมรดกให้ลูก ไม่ได้มีการซื้อขายหรือใช้ในเชิงพาณิชย์
ในประเด็น ภบท.5 นั้น ทศพลชี้แจงว่า ตอนทำบัญชีทรัพย์สินมีการพิมพ์เอกสารซ้ำกันหลายรายการจึงต้องไปชี้แจงให้เข้าใจตรงกัน
สำหรับประเด็นที่ ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาว่าทำผิดจริยธรรมร้ายแรงนั้น ขณะนี้ปารีณายังไม่ทราบว่าผิดประเด็นไหน ขณะนี้ให้ทีมทนายดูข้อกฎหมายว่าผิดในประเด็นใด โดยในวันที่ 10 ก.ย. นี้จะส่งเอกสารชี้แจง ป.ป.ช.ใน 2 เรื่องคือ เรื่องเงินกู้กับบัญชีทรัพย์สิน ส่วนเรื่อง ภบท.5 ขอรวบรวมเอกสารก่อน แต่หาก ป.ป.ช.ต้องการเรียกไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมก็ยินดี
ด้าน ปารีณาเปิดเผยว่า หาก ป.ป.ช.มีข้อสงสัยก็มีสิทธิเรียกไปสอบถาม ซึ่งตนยินดีรวบรวมหลักฐานไปชี้แจง พร้อมมั่นใจว่าชี้แจงได้ในทุกประเด็น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
