“เพื่อป้องกันโอกาสในการติดเชื้อฝีดาษลิง และอย่างที่เป็นส่วนหนึ่งของวิถีการใช้ชีวิตของเรา เรามีคำแนะนำว่า หนึ่ง คุณต้องไม่สัมผัสใกล้ชิดแบบผิวหนังต่อผิวหนังกับชาวต่างชาติ” หวู่ซุนโหยว หัวหน้านักระบาดวิทยาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งประเทศจีน โพสต์ข้อความลงเพจทางการของตนบนเว็บไซต์ Weibo เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (17 ก.ย.)
หวู่ยังเรียกร้องให้ผู้คนหลีกเลี่ยงการ “สัมผัสทางผิวหนัง” กับคนที่เคยเดินทางไปต่างประเทศภายในระยะเวลา 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เช่นเดียวกันการที่ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสตัวกับ “คนแปลกหน้า” ทั้งหมด “มันจำเป็นและสำคัญมาก ที่จะต้องเสริมสร้างการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาด ของโรคฝีดาษลิงในระดับสังคม” หวู่ระบุ
โพสต์ของหวู่ถูกแชร์ส่งต่อออกไปอย่างกว้างขวางบนโซเชียลมีเดียจีน ตลอดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ส่วนแสดงความคิดเห็นของโพสต์ดังกล่าว กลับถูกปิดลงในช่วงเช้าของวันนี้ (19 ก.ย.) หลังจากที่มีประชาชนเข้ามาตั้งคำถามและวิจารณ์คำแนะนำของหวู่จำนวนมาก
ประชาชนบางคนแคปภาพหน้าจอข้อความของหวู่ ก่อนที่จะตั้งคำถามว่าทำไมถึงเป็นชาวต่างชาติ ที่ชาวจีนจะต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสตัว เนื่องจากชาวต่างชาติหลายคนได้รับวีซ่าผู้พำนักระยะยาว และไม่ได้เดินทางออกจากประเทศจีนเลย นับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาดจนจีนสั่งปิดประเทศตนเองอย่างหนาแน่นเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา แต่ชาวต่างชาติเหล่านี้กลับถูกมองว่าเป็นตัวอันตรายในการแพร่เชื้อฝีดาษลิง
สำนักข่าว Reuters ติดต่อหาหวู่เพื่อขอความเห็นเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี หวู่ยังคงไม่ตอบคำถามใดๆ จากทางผู้สื่อข่าว
เมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา พื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของนครฉงชิ่ง พบรายงานการติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิงเป็นกรณีแรก ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ นับเป็นการติดเชื้อฝีดาษลิงในจีนแผ่นดินใหญ่เป็นครั้งแรก ท่ามกลางการระบาดของไวรัสดังกล่าวทั่วโลกเมื่อเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ และยุโรป
อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงในการแพร่เชื้อของฝีดาษลิงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากบุคคลดังกล่าวถูกกักตัวเมื่อมาถึงนครฉงชิ่ง ทั้งนี้ คณะกรรมการสุขภาพเทศบาลออกมาเปิดเผยว่า ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับชาวต่างชาติรายดังกล่าวทั้งหมดถูกแยกตัวออกจากชุมชน และกำลังอยู่ภายใต้การสังเกตโดยแพทย์แล้ว
ปัจจุบันมีประมาณ 90 ประเทศทั่วโลก ที่พบการแพร่ระบาดของโรคฝีฝีดาษ ซึ่งไม่ใช่โรคเฉพาะถิ่น อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขทั่วโลก โดยปัจจุบัน มีผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อฝีดาษลิงแล้วมากกว่า 60,000 ราย และบางประเทศที่ไม่มีโรคฝีดาษลิงเป็นโรคเฉพาะถิ่น มีการรายงานการเสียชีวิตครั้งแรกที่เกี่ยวข้องกับเชื้อไวรัสแล้วด้วย
ที่มา: